3 วิธีในการหา Keyword ของคู่แข่งสำหรับธุรกิจแบบ Platform หรือ Software

ปัจจุบันมีบริษัทที่ให้บริการในด้านซอฟต์แวร์ (SaaS) มากกว่า 22,600 แห่งทั่วโลก ตามข้อมูลของ Crunchbase โดยในเว็บไซต์ Capterra มีซอฟต์แวร์มากกว่า 800 หมวดหมู่ จากการวิจัยโดย Statista ระบุว่า ขนาดตลาดของอุตสาหกรรม SaaS เติบโตขึ้นจาก 5.56 พันล้านดอลลาร์ในปี 2008 เป็นมากกว่า 156 พันล้านดอลลาร์ในปี 2020 ซึ่งตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ตลาดของอุตสาหกรรม SaaS มีการแข่งขันกันมากขึ้นทุกวัน

หากต้องการอยู่เหนือกว่าคู่แข่งและเป็นผู้ชนะในตลาด SaaS คุณจะต้องรู้จักบริษัทที่คุณกำลังแข่งขันด้วยโดยการใช้มุมมองของ SEO ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้คุณทราบกลยุทธ์ในส่วนของเนื้อหาและข้อมูลที่นำมาใช้ในเว็บไซต์ รวมไปถึงการกำหนด Keyword เป้าหมาย และประเภทของลิ้งก์ที่คุณควรไปหามา โดยในบทความนี้ คุณจะได้เรียนรู้ 3 วิธีที่มีประสิทธิภาพและสามารถดำเนินการอย่างรวดเร็ว

ทำไมต้องให้ความสนใจกับคู่แข่งในตลาด SaaS

ถ้าคุณไม่รู้จักคู่แข่ง SEO ของคุณ คุณอาจจะโดนคู่แข่งแย่งอันดับด้านบนไปได้หมด

1. คุณจะได้รู้ถึง Keyword เป้าหมายของคู่แข่งพร้อมกับลิงก์ที่พวกเขาต้องใช้ เพื่อการวางแผนของคุณ

เมื่อระบุบริษัทที่เป็นคู่แข่งของคุณได้แล้ว คุณจะสามารถทราบ Keyword ยอดนิยมที่พวกเขากำลังกำหนดเป็นเป้าหมายอยู่ และด้วยวิธีนี้ คุณสามารถมุ่งความสนใจไปที่การพยายามทำให้คำหลักเหล่านั้นซึ่งสามารถทำให้คนเข้าเว็บไซต์และใช้งานพร้อมลงชื่อเข้าใช้กับระบบของคุณ 

การรู้จักคู่แข่งด้าน SEO ของคุณเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการวิเคราะห์ช่องว่างของจำนวนลิงก์ ด้วยวิธีนี้ คุณจะทราบประเภทของลิงก์ที่พวกเขาได้มาและที่มาของลิงก์เหล่านั้น ซึ่งจะช่วยให้คุณระบุเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับระบบของคุณได้

2. คุณจะได้เข้าใจว่า คุณมีจุดแข็งด้านใดบ้างที่เหนือกว่าคู่แข่ง

หากคุณไม่รู้ว่าใครคือคู่แข่งอันดับต้นๆของคุณ คุณจะไม่สามารถหาโอกาสในการทำ SEO ที่เน้นเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจของคุณได้ ตัวอย่างเช่น หากพวกเขาเน้นการใช้ Keyword สั้นๆที่มีปริมาณการค้นหาสูงและอยู่ในอันดับต้นๆ คุณอาจจะพยายามใช้ Keyword ที่มีปริมาณการค้นหารองลงมา อาจจะทำให้คุณได้เปรียบในการแข่งขันนี้

3. คุณจะได้เข้าใจว่าสิ่งไหนคือตัวขับเคลื่อนธุรกิจของคู่แข่ง

บริษัท SaaS ส่วนใหญ่จะพยายามเพิ่มประสิทธิภาพของการลงบทความ หน้า Landing Page และหน้าผลิตภัณฑ์ที่สามารถปิดยอดขายได้ นี่เป็นเพราะพวกเขาวัดการเติบโตของบริษัทด้วยจำนวนการสมัครและลูกค้าที่ชำระเงินให้พวกเขา ดังนั้นเมื่อระบุคู่แข่งด้าน SEO ของคุณได้แล้ว คุณจะทราบประเภทของ CTA และปุ่มที่ทำงานได้ดีสำหรับระบบของคุณ นอกจากนี้คุณจะมีความเข้าใจที่ดีขึ้นเกี่ยวกับกลยุทธ์การปิดการขายที่สามารถขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ SaaS ของคุณได้

3 วิธีในการค้นหาคู่แข่งของคุณ

1. ใช้เครื่องมือสำหรับ SEO

เครื่องมือ SEO สามารถเข้าถึงข้อมูลจำนวนมากสำหรับเว็บไซต์ต่างๆ พร้อมทั้งวิเคราะห์และจัดหมวดหมู่ข้อมูลเพื่อการใช้งานของคุณเอง ตัวอย่างเช่น SEMrush มีเครื่องมือ Market Explorer ซึ่งช่วยให้คุณค้นหาคู่แข่งที่มีศักยภาพสำหรับธุรกิจของคุณ หรือ Ahrefs ยังมีรายงานโดเมนที่แข่งขันกันในเครื่องมือ Site Explorer ซึ่งจะช่วยให้คุณระบุเว็บไซต์ที่แข่งขันในตลาด SaaS ของคุณตามประเภทของ Keyword เป้าหมาย ที่คุณกำลังติดอันดับ อีกทั้งคุณยังสามารถใช้เครื่องมือ Moz Pro True Competitor เพื่อระบุคู่แข่ง SEO อันดับต้นๆ สำหรับแบรนด์ SaaS ของคุณได้อีกด้วย

วิธีการทำงาน สมมติว่าคุณจะต้องการระบุคู่แข่ง SEO อันดับต้นๆ ของ Moz ด้วยเครื่องมือนี้ คุณสามารถค้นหาข้อมูลนั้นได้ภายในไม่กี่วินาที

โดยสิ่งแรกที่คุณต้องทำคือป้อนรายละเอียดต่อไปนี้ในเครื่องมือ

  • ตลาดที่ต้องการ: กลุ่มตลาดที่คุณสนใจ
  • ประเภทโดเมน: ประเภทของโดเมน
  • ชื่อโดเมน: URL เว็บไซต์ของคุณ

และเมื่อคุณกดปุ่ม “Find Competitor” คุณจะได้ลิสท์ของ 25 เว็บไซต์ที่เป็นคู่แข่งของคุณ

อย่างที่คุณเห็น เว็บไซต์ที่มีการแข่งขันกับ Moz บน SERP ไม่ได้จำกัดอยู่แค่แบรนด์ซอฟต์แวร์เพียงอย่างเดียว พวกเขารวมถึงแบรนด์ในอุตสาหกรรมอื่นๆด้วย เช่น

  • Google
  • Search Engine Journal
  • Hubspot
  • Search Engine Land
  • Wordstream
  • Backlinko

เครื่องมือนี้ยังมีการแสดงคะแนน Overlap และคะแนน Rivalry เพื่อกรองคู่แข่งอันดับต้นๆ ของคุณ

คะแนน Overlap จะช่วยกรองคู่แข่งอันดับต้นๆ ของคุณโดยพิจารณาจาก Keyword ที่ใช้ร่วมกัน ซึ่งทั้งคุณและคู่แข่งติดหน้าการจัดอันดับในหน้าแรกของ Google ในขณะที่คะแนน Rivalry จะใช้ปัจจัยต่างๆ เช่น CTR, คะแนน DA, และปริมาณคำหลักที่ใช้ร่วมกัน เพื่อระบุคู่แข่งที่เกี่ยวข้องมากที่สุดสำหรับ SaaS ของคุณ

หลังจากระบุคู่แข่ง SEO อันดับต้นๆ ของคุณได้แล้ว คุณสามารถทำการวิเคราะห์ในเชิงลึกคู่แข่งของคุณได้มากถึง 2 ราย เพื่อทราบ Keyword เป้าหมายของพวกเขา

2. การ Survey หรือสัมภาษณ์ทั้งลูกค้าใหม่ ลูกค้าเก่า

หากมีคนสมัครใช้ผลิตภัณฑ์ SaaS ของคุณ มีโอกาสที่พวกเขาจะได้สาธิตหรือทดลองใช้ตัวเลือกอื่นๆ ก่อนตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์ของคุณ นอกจากนี้ยังเป็นไปได้ว่า พวกเขาอาจจะเพิ่งเปลี่ยนจากคู่แข่งรายหนึ่งของคุณมาเป็นลูกค้าของคุณ

นี่แสดงให้เห็นว่า พวกเขามีความคิดว่าใครเป็นคู่แข่งทางตรงและทางอ้อมของคุณ เพื่อให้ได้ข้อมูลนี้ สิ่งที่คุณต้องทำคือ ติดต่อและสัมภาษณ์ลูกค้าทีละคน ซึ่งอาจทำได้โดยการพูดคุยกับพวกเขาผ่านการโทรศัพท์ ส่งแบบสำรวจสั้นๆให้พวกเขากรอก หรือถามพวกเขาในระหว่างกระบวนการเริ่มต้นใช้งาน

ตัวอย่าง คำถามบางส่วนที่คุณสามารถขอให้ลูกค้ากรอกเพื่อใช้ในการประเมินคู่แข่งของคุณ

  • คุณเคยใช้เครื่องมืออะไรบ้างใน [การแก้ปัญหา X] ก่อนทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา
  • หากคุณไม่เคยใช้เครื่องมือใดๆมาก่อน คุณมีวิธีแก้ปัญหานี้ได้อย่างไรก่อนหน้านี้
  • อะไรที่ทำให้คุณสนใจทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา
  • คุณรู้ตัวเมื่อไหร่ว่าเครื่องมือของเราคือสิ่งที่คุณต้องการในตอนนี้
  • คุณทำการหาข้อมูลมากน้อยเพียงใดก่อนตัดสินใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของเรา หรือมีเครื่องมืออื่นๆ ที่คล้ายกันที่คุณค้นพบในระหว่างกระบวนการหาข้อมูลหรือไม่ ถ้ามี มีเครื่องมือใดบ้าง

3. การค้นหาใน Google เพื่อหาข้อดีและสิ่งที่ควรมีใน SaaS ของคุณ

การค้นหากรณีการใช้งาน คุณลักษณะ และปัญหาที่ซอฟต์แวร์ของคุณได้แก้ไข โดยการใช้ Google เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการระบุคู่แข่งด้าน SEO อันดับต้นๆของคุณ เว็บไซต์ที่คุณเจอจาก Keyword เหล่านี้จะเป็นคู่แข่งหลักของคุณที่ได้มีการลงทุนทำ SEO ไปพอสมควรเลยทีเดียว

คำสั่งการค้นหานี้จะแสดงเว็บไซต์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ที่คุณค้นหาใน Google

สมมติว่าคุณต้องการค้นหาเว็บไซต์ เช่น salesforce.com คุณสามารถค้นหา “related:salesforce.com” ใน Google ได้ โดยผลลัพธ์ในหน้าหนึ่งคือคู่แข่งอันดับต้น ๆ ของ SalesForce

การค้นหากรณีการใช้งานของ Software

หากซอฟต์แวร์ของคุณช่วยให้บริษัท SaaS เริ่มงานและเปิดใช้งานสำหรับผู้ใช้ใหม่ หนึ่งในกรณีการใช้งานหลักคือ “การช่วยให้ผู้ใช้งานใหม่เข้าใจการทำงานของระบบมากขึ้น”

หากคุณค้นหา “ซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานใหม่เข้าใจการทำงานของระบบ” บน Google คุณจะเจอเว็บไซต์ของคู่แข่งที่ติดอันดับสำหรับการค้นหานี้

เว็บไซต์ที่ติดอันดับด้วย Keyword นี้ ได้แก่:

  • Appcues
  • Userpilot
  • Apty
  • Userflow

นอกจากนั้น ยังมีแบรนด์ SaaS ที่จ่ายเงินเพื่อให้ติดอันดับหน้าแรกของ Google สำหรับ Keyword นี้

ค้นหาจากการใช้งาน SaaS ของคุณ

หนึ่งในคุณสมบัติหลักของเครื่องมือ Moz คือ “การติดตามอันดับบน Google” หากต้องการระบุเว็บไซต์ที่มีคุณลักษณะคล้ายคลึงกัน คุณสามารถป้อนคำหลักนั้นบนแถบค้นหาของ Google

นี่คือผลลัพธ์ที่ได้กลับมา:

นอกจาก Moz แล้วยังมีเว็บไซต์เหล่านี้ที่ทำได้เหมือนกัน

  • Link-Assistant
  • Ahrefs
  • Rank Tracker
  • Spyfu
  • SEMrush

ค้นหาด้วยวิธีการแก้ปัญหาการใช้งานต่างๆ

สมมติว่า คุณกำลังทำซอฟต์แวร์ตัดต่อวิดีโอออนไลน์ หนึ่งในปัญหาที่ผู้เข้าใช้งานของคุณมักจะพบเจอคือ ไม่ทราบ “วิธีเพิ่มรูปภาพลงในวิดีโอ”

เมื่อทำการค้นหาโดย Google สำหรับข้อความค้นหานี้ คุณจะเห็นผลลัพธ์ที่มีลักษณะดังนี้:

ซึ่งเว็บไซต์ที่ติดอันดับ Keyword นี้คือ

  • Kapwing
  • Veed
  • Online Video Cutter
  • Flixier
  • Movavi

สรุป

หากคุณไม่รู้จักบริษัท SaaS ที่คุณกำลังแข่งขันด้วย คุณมีโอกาสที่จะพ่ายแพ้ให้กับคู่แข่งของคุณสำหรับการแสดงผลบน Google

ในบทความนี้ คุณได้เรียนรู้วิธีที่มีประสิทธิภาพ 3 วิธีในการระบุคู่แข่ง SEO อันดับต้นๆ ของคุณในฐานะแบรนด์ SaaS:

  1. คุณสามารถใช้ซอฟต์แวร์ SEO เช่น เครื่องมือ Moz True Competitor เพื่อค้นหาคู่แข่งของคุณ และรู้ Keyword เป้าหมายของพวกเขา
  2. คุณสามารถเข้าถึงลูกค้าใหม่และลูกค้าปัจจุบัน เพื่อค้นหาว่าคู่แข่งแบรนด์ใดที่พวกเขากำลังเปรียบเทียบกับแบรนด์ของคุณอยู่
  3. คุณค้นหาฟีเจอร์และกรณีการใช้งานของผลิตภัณฑ์ SaaS ได้ใน Google โดยข้อมูลนี้จะแสดงให้คุณเห็นแบรนด์ต่างๆ ที่มีแนวโน้มว่าจะแข่งขันกับแบรนด์ของคุณใน SERP

Credit: Link

สวัสดี เราชื่อ พีค มีความสนใจเรื่อง SEO มาตั้งแต่ตอนอายุ 20 สมัยเข้ามหาลัยใหม่ๆ เนื่องจากเราเรียนบริหารธุรกิจ จึงได้เรียนเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ และมองว่า SEO คือหนึ่งในศาสตร์และศิลป์ที่มีความอ่อนไหว น่าสนใจ และดูมีอะไรในตัวของมันเองดี คนที่ทำต้องรอคอยเป็น เหมือนฝึกให้เรารู้จักที่จะรอคอยได้ ก็เลยศึกษา ทดลอง มาโดยตลอด มันสนุกมากนะ ได้เห็นกราฟวิ่งขึ้นวิ่งลง เติบโตไปเรื่อยๆ เปรียบเสมือนกับชีวิตที่มีสีสัน มีจังหวะที่คอยสลับไปมานั่นเอง