ทุกคนสามารถทำ SEO ด้วยตัวเองได้โดยไม่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ แต่แน่นอนว่า การจ้างผู้เชี่ยวชาญนั้นย่อมดีกว่า !
สำหรับเจ้าของธุรกิจที่พร้อมจะยกระดับการทำ SEO ให้ดียิ่งขึ้น เห็นผลมากขึ้น อาจถึงเวลาที่จะต้องเลิกทำ SEO ด้วยตัวเอง และหันมาลองจ้างผู้เชี่ยวชาญเพื่อมาทำ SEO ให้กับธุรกิจของคุณดู แต่คุณอาจมีคำถามว่า แล้วคุณจะค้นหาและจ้างบริษัทรับทำ SEO ที่เหมาะสม เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมสำหรับธุรกิจของคุณได้อย่างไร?
โดยในบทความนี้ เราจะสรุปเคล็ดลับสำคัญสำหรับการว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO ให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ ไปจนถึงคำถามที่คุณควรสอบถามผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นเพื่อตรวจสอบความรู้ของพวกเขาก่อนที่จะตัดสินใจทำการจ้างงาน

ข้อดีของการจ้างบริษัทหรือผู้เชี่ยวชาญที่รับทำ SEO
แม้ว่าจะมีแหล่งข้อมูลบนโลกออนไลน์มากมายที่สามารถช่วยให้คุณลองทำ SEO ด้วยตัวเองได้ แต่การจ้างผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO นั้นมีข้อดีที่น่าสนใจมากเช่นเดียวกัน การทำ SEO นั้นไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถทำความเข้าใจหรือลองทำเองได้ง่ายขนาดนั้น ดังนั้นการจ้างมืออาชีพหรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะเข้ามาช่วยทำตั้งแต่แรก อาจเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ช่วยลดเวลาในการทำงาน ประหยัดงบประมาณ แถมไม่ต้องปวดหัวเอง อีกทั้งยังสามารถทำ SEO ได้ถูกหลักตั้งแต่เริ่มเลยด้วย หากคุณกำลังลังเลว่าการจ้างงานครั้งนี้จะคุ้มค่าหรือไม่ ลองดูผลประโยชน์ที่จะได้รับประกอบการตัดสินใจดู
ข้อดีของการจ้าง SEO มืออาชีพ
- เริ่มใช้กลยุทธ์การทำ SEO ที่มีประสิทธิภาพตั้งแต่เริ่มต้น ไม่ต้องลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง
- ประหยัดงบประมาณที่อาจเสียไปจากการลองผิดลองถูก โดยสามารถกำหนดเป้าหมายที่ถูกต้องตั้งแต่แรก และสามารถใช้งบประมาณการตลาดของคุณให้เกิดประโยชน์สูงสุด
- ขยายการเข้าถึงธุรกิจของคุณบนโลกออนไลน์ด้วยการขยายการตลาดไปยังช่องทางที่หลากหลายมากขึ้น
- ป้องกันข้อผิดพลาด SEO ที่มีราคาแพง และบทลงโทษของ Google ที่อาจเกิดขึ้นได้หากทำผิดวิธี
- ช่วยอธิบายข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์เว็บไซต์ของคุณ (Website Analytics) ทั้งความหมาย และเหตุผลของข้อมูลต่างๆที่มีความสำคัญสำหรับธุรกิจของคุณ
เคล็ดลับในการจ้างคนทำ SEO ที่เหมาะกับคุณมากที่สุด
การเลือกบริษัทหรือที่ปรึกษาที่จะมาทำ SEO ให้กับคุณนั้นจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เนื่องจากเป้าหมายหลักคือ การหาผู้ให้บริการที่เหมาะสมกับความต้องการและเป้าหมายของธุรกิจของคุณมากที่สุด เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการทำงานมากที่สุด และด้วยเหตุนี้ เราจึงได้รวบรวมเคล็ดลับที่ดีที่สุดมาให้คุณ เพื่อช่วยในการตัดสินใจเลือกสิ่งที่เหมาะสม
1. การถามจากคนรู้จัก
หนึ่งในแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดสำหรับการหาผู้ให้บริการด้าน SEO ที่ไว้ใจได้ คือการถามจากคนรู้จัก โดยเฉพาะเจ้าของธุรกิจที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกับคุณ คุณจะได้รับคำแนะนำจากคนที่เคยจ้างผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO ทำมาก่อน รวมไปถึงรีวิวจากการใช้งานจริง จะได้ไม่เสียเวลาไปกับการจ้างผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO ที่อาจจะไม่เหมาะกับธุรกิจของคุณ
2. ให้ผู้เชี่ยวชาญประเมินการทำ SEO ของธุรกิจคุณอย่างตรงไปตรงมา
เมื่อคุณติดต่อเอเจนซี่หรือที่ปรึกษา SEO คุณควรขอให้ผู้เชี่ยวชาญทำแพลนการทำ SEO อย่างละเอียด เช่น ประกอบไปด้วยส่วนไหนบ้าง มีค่าใช้จ่ายเท่าไร และจะใช้ระยะเวลาเท่าไรสำหรับการทำ SEO เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเว็บไซต์ของคุณ รวมถึงขอให้ทำการเสนอราคาว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง และขอไทม์ไลน์ที่ชัดเจน จะช่วยให้คุณตัดสินใจก่อนจ้างงานได้ดีขึ้น
3. เข้าใจว่าการทำ SEO นั้นมีรายละเอียดอะไรบ้าง
บริษัทที่ทำ SEO ส่วนใหญ่มักจะเสนอแพคเกจแบบ “All-in-one” โดยที่จะรวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน จุดนี้เป็นจุดที่จะต้องระวัง เพราะในบางครั้งแพคเกจ “All-in-one” อาจจะไม่ได้เหมาะกับธุรกิจของคุณเสมอไป คุณควรหาผู้เชี่ยวชาญหรือบริษัทที่สามารถทำความเข้าใจกลยุทธ์ของธุรกิจคุณและเสนอแผนงานที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณได้มากที่สุด ดังนั้นคุณควรจะถามว่าในแพคเกจ SEO นี้ จะมีการทำส่วนไหนบ้าง เพื่อให้คุณรู้และเข้าใจว่าสิ่งที่คุณกำลังจะจ่ายเงินไปนั้น จะได้อะไรเป็นผลตอบแทนบ้าง เช่น On-Page SEO, Local SEO, การเพิ่มประสิทธิภาพทางเทคนิคต่างๆ, การทำ Content, รวมไปถึงการทำ Backlink
4. สอบถามถึงการวัดผล
เจ้าของธุรกิจทุกคนต้องการที่จะให้เว็บไซต์ของพวกเขาติดอันดับหนึ่งบนการค้นหาของ Google แต่ SEO นั้นมีสิ่งที่มากกว่าอันดับการแสดงผล คนทำ SEO ที่ดีจะมองไปถึงการสร้างยอดขายผ่าน SEO ซึ่งส่วนใหญ่จะมีการกำหนดตัวชี้วัดหรือ KPI ขึ้นมา เพื่อเป็นเป้าหมายกลยุทธ์ในการทำ SEO โดย KPI บางส่วนอาจจะรวมไปถึง จำนวนการเยี่ยมชมเว็บไซต์, จำนวน Lead, หรือปริมาณยอดขายต่อเดือน ซึ่งเอเจนซี่ SEO ที่ดีจะสามารถสื่อสารและอธิบายจุดประสงค์ของ KPI เหล่านี้ได้ เพื่อใช้ในการวัดผลความสำเร็จของการทำ SEO
5. การนัดประชุมหรือการโทรพูดคุยก่อนจ้างงาน
ก่อนที่จะทำสัญญากับเอเจนซี่หรือบริษัทใดก็ตาม คุณควรนัดประชุมหรือมีการโทรคุยกัน เพื่อสอบถามถึงรายละเอียดหรือสิ่งที่คุณยังสงสัยเกี่ยวกับบริการ SEO ที่บริษัทจะทำให้
6. การหาข้อมูล
ก่อนที่จะทำสัญญากับเอเจนซี่หรือบริษัทใดก็ตาม คุณควรค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับแผนการในการทำ SEO ที่ทางเอเจนซี่เสนอมา ว่าตรงกับสิ่งที่คุณต้องการหรือไม่ รวมไปถึงการค้นหาผลงานหรือบริการที่ทางเอเจนซี่ทำให้ลูกค้าเก่าและลูกค้ารายอื่นๆ เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทที่คุณกำลังจะจ้างมานั้น สามารถทำงานให้คุณได้อย่างมีประสิทธิภาพจริงๆ
นอกจากนี้การหารีวิวของบริษัทจากคนรู้จักก่อนที่จะจ้างงาน จะเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับคุณมากยิ่งขึ้น รวมไปถึง การค้นหาจากรีวิวจาก Social Media ต่างๆ เพื่อดูรีวิวและความคิดเห็นเกี่ยวกับบริษัทเหล่านั้น ซึ่งอาจจะบอกได้ว่า ลูกค้าที่เคยร่วมงานกับพวกเขาพึงพอใจกับการทำงานหรือผลงานของพวกเขามากแค่ไหน
หากบริษัทที่คุณกำลังพิจารณามีการทำเคสหรือตัวอย่างเกี่ยวกับ SEO ที่น่าสนใจจากการทำงานที่ผ่านมา คุณสามารถศึกษาจากเคสเหล่านั้น และลองวิเคราะห์ดูว่า สิ่งที่บริษัททำให้กับลูกค้านั้นตรงกับสิ่งที่คุณต้องการหรือไม่
7. สื่อสารสิ่งที่คุณต้องการกับผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้เข้าใจตรงกัน
“อันดับบนสุดของการค้นหาใน Google” อาจจะดูเหมือนเป็นเป้าหมายที่คุณต้องการ แต่ถ้าหากคุณมีเป้าหมายอื่นๆที่คุณต้องการเพิ่มเติม อย่าลืมสื่อสารสิ่งเหล่านี้กับผู้เชี่ยวชาญการทำ SEO ของคุณเพื่อให้พวกเขารับรู้ตรงกับคุณว่า คุณต้องการอะไรบ้าง และช่วยทำแผนการทำงานเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายที่คุณต้องการ
เอเจนซี่ SEO ที่ดีจะช่วยวางแผนเพื่อให้คุณได้เป้าหมายที่ต้องการ รวมไปถึงการสร้างเป้าหมายใหม่ผ่านการทำ SEO และสิ่งที่คุณจะได้รับตั้งแต่เริ่มต้นหากคุณตัดสินใจร่วมงานกับพวกเขา
8. เปรียบเทียบตัวเลือกที่คุณมี
คุณไม่จำเป็นต้องเลือกผู้ให้บริการ SEO รายแรกที่เข้ามาหาคุณ และอย่าลังเลที่จะเปรียบเทียบตัวเลือกหลากๆที่ ลองพิจารณาสอบถามข้อมูลจากผู้ให้บริการรายอื่นๆด้วย หรืออาจจะลองเสิร์ช Google หรือหาตาม Social Media ต่างๆ รวมไปถึงการถามความคิดเห็นจากคนรู้จัก เพื่อให้คุณสามารถเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณได้มากที่สุด โดยเลือกจากคนที่เข้าใจธุรกิจของคุณได้เป็นอย่างดี และแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีสิ่งที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จจากการทำ SEO ได้
สรุปเคล็ดลับการหาผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO ที่เหมาะสม
การค้นหาบริษัทหรือผู้เชี่ยวชาญที่รับทำ SEO ที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของคุณ จำเป็นต้องศึกษาตัวเลือกทั้งหมดที่คุณมี ถามคำถามที่ถูกต้อง และมองหาผลลัพธ์ที่ต้องการ บริษัทหรือเอเจนซี่ที่ดีจะใช้เวลาในการทำความเข้าใจธุรกิจของคุณ และทำแผนกลยุทธ์ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณได้รับผล SEO ที่ดีที่สุด