หากคุณต้องการทำความรู้จักกับเครื่องมือ SEO Tools ที่ดีที่สุด ซึ่งอัพเดตใหม่ล่าสุดในปี 2023 นี้ เเนะนำว่าต้องอ่านบทความนี้ให้แจ่มแจ้ง โดยทางเราได้ทำการทดสอบ และตรวจสอบเครื่องมือ SEO ฟรีมากสุดถึง 177 รายการ เพื่อตรวจเช็คดูว่าเครื่องมือไหนดีที่สุด เเละเหมาะสมสำหรับการใช้งานทางด้าน SEO โดยคุณสามารถตรวจสอบเครื่องมือที่น่าสนใจได้ในบทความนี้เลย
ซึ่งปัจจัยในการเลือกใช้เครื่องมือ SEO ที่ดีที่สุดสำหรับตัวคุณเอง คุณจะต้องคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้
- คุณต้องการเลือกใช้เครื่องมือ SEO สำหรับการทำงานด้านอะไร
- เทคนิคทางด้าน SEO (Technical SEO)
- ค้นหาคีย์เวิร์ด (Keyword Research)
- ติดตามอันดับ (Rank Tracking)
- ปรับคอนเทนต์ให้เหมาะสมเเละมีประสิทธิภาพ (Content Optimization)
- วิเคราะห์ Backlink (Backlink Analysis)
- Video SEO
- การสร้าง Link Building
- คุณต้องการใช้บริการเครื่องมือ SEO เเบบใด
- เครื่องมือฟรี
- เครื่องมือเเบบเสียเงิน
- เครื่องมือแบบฟรีเมียม
- เครื่องมือใหม่
- หรือคุณต้องการเลือกใช้เฉพาะเครื่องมือโปรดเท่านั้น
- ใช่/ไม่ใช่ อยู่ที่คุณจะตัดสินใจ
เครื่องมือทางด้านเทคนิค SEO

All in One SEO Pack
ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่สามารถใช้เเทน Yoast SEO plugin ได้ โดย All In One SEO Pack มีคุณสมบัติพิเศษบางประการที่เป็นจุดแตกต่างจาก Yoast SEO plugin อาทิ การสร้างแท็กคำอธิบายโดยอัตโนมัติ การสนับสนุนเเท็กบัญญัติ และสามารถใช้เป็นตัวบล็อกพวก บอทที่ไม่ดีได้ (Bad bot) ซึ่งบอทเหล่านี้จะเข้าทำลาย เเละขโมยข้อมูลสำคัญต่าง ๆ จากเว็บไซต์ของคุณได้

Bing Webmaster Tools
Bing Webmaster Tools ก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือ SEO ที่สามารถทำงานได้ดี แต่อาจจะยังไม่ดีเท่ากับGoogle Search Console แต่ทว่า Bing Webmaster Tools มีฟีเจอร์ที่โดดเด่นอย่างหนึ่งคือ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการค้นหาคีย์เวิร์ดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นคำคีย์เวิร์ดที่ Google Keyword Planner (GKP) ไม่ได้เปิดเผยให้คุณทราบ ดังนั้นคุณจะได้คีย์เวิร์ดใหม่ ๆ ที่น่าสนใจเลยทีเดียว

Botify
เครื่องมือสำหรับใช้ในการตรวจสอบเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพ และมีความตรงไปตรงมามากที่สุดต้องใช้ Botify โดยเป็นเครื่องมือที่สามารถใช้ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ ตรวจสอบข้อผิดพลาดของ HTML รวมไปถึงตรวจสอบข้อมูลอัตราการคลิกเจ้าชมเว็บไซต์

Bright Local
เครื่องมือ Bright Local ได้รับความนิยมอย่างมากในการใช้ตรวจสอบเว็บไซต์ที่เป็น Local SEO โดยมีฟีเจอร์ที่โดดเด่น คือ การค้นหาอ้างอิงที่ไม่ถูกต้อง หรือไม่มีที่มาในโลกออนไลน์ ซึ่งจะช่วยให้คุณเลือกใช้การอ้างอิงที่ถูกต้องและมีความสอดคล้องกับเนื้อหาในเว็บไซต์

Browseo
สำหรับเครื่องมือ Browseo จะช่วยให้คุณเห็นว่าสไปเดอร์ของ Google หรือ Search engine อื่น ๆ มองเห็นเว็บไซต์ของคุณเป็นอย่างไร หากคุณดูที่ภาพด้านล่างนี้ คุณจะสามารถสังเกตได้ว่าสไปเดอร์ของเครื่องมือการค้นหามีมุมอย่างไรในการวิเคราะห์เว็บไซต์ของคุณ

Clusteric
เครื่องมือ Clusteric อาจจะไม่ค่อยสะดวกสำหรับการใช้งาน เเต่ว่าเป็นเครื่องมือที่มีฟีเจอร์หลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบเว็บไซต์ การวิเคราะห์คู่แข่ง การมองเห็นการค้นหาบนเครื่องมือการค้นหา เช่น Google เเละฟีเจอร์อื่น ๆ อีกมากมาย

ContentKing App
เครื่องมือ ContentKing App จะมีความคล้ายคลึงกับเครื่องมือตรวจสอบ SEO อื่น ๆ แต่ยังมีข้อแตกต่างประการหนึ่งที่สำคัญ คือ เป็นเครื่องมือที่สามารถรวบรวมข้อมูลเว็บไซต์ของคุณในเชิงรุก และเเจงให้คุณทราบเกี่ยวกับปัญหาค่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเว็บไซต์ได้

DareBoost
เครื่องมือ DareBoost .ใช้สำหรับทดสอบประสิทธิภาพของเว็บไซต์ เครื่องมือนี้จะช่วยเพิ่มความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ของคุณ เเละไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถบอกวิธีการแก้ไขปัญหาที่ทำให้สิ่งต่าง ๆ ในเว็บไซต์ช้าลงได้

DeepCrawl
เครื่องมือ DeepCrawl เป็นเครื่องมือสำหรับการตรวจสอบเว็บไซต์ โดยเครื่องมือนี้จะตรวจทุกหน้าเพจในเว็บไซต์ของคุณ และมีผลการรายงานที่ครอบคลุม แสดงรายการจำนวนของแท็ก H1 ที่มีในแต่ละหน้า รวมทั้งรายงานถึงหน้าที่ไม่มีการจัดทำดัชนี ลิงก์ภายใน ภายนอกที่เสีย หรือเป็นสแปมในเว็บไซต์ เเละตรวจสอบอีกหลายรายการมากมาย

EasyRedir
เครื่องมือ EasyRedir ใช้สำหรับการเปลี่ยนเส้นทางการรับส่งข้อมูลระหว่างโดเมนต่าง ๆ ซึ่งสามารถทำได้ง่ายมาก เพียงแค่ป้อน URL ลงไปในเครื่องมือ จากนั้นเครื่องมือจะให้ช้อมูลเกี่ยวกับ DNS ที่คุณสามารถใช้จัดการการเปลี่ยนเส้นทางได้ 100%

Forecheck
เครื่องมือ Forecheck .ใช้สำหรับรวบรวมข้อมูลเว็บไซต์ เพื่อเปิดเผยถึงปัญหาที่อาจส่งผลทำให้เว็บไซต์ไม่ติดหน้าแรกของ Google นอกจากนี้ยังกำหนดรหัสสีของรายงาน เพื่อให้คุณทราบว่าปัญหาใดที่ต้องแก้ไขก่อน

Google Analytic
เครื่องมือ Google Analytic เหมาะสำหรับการทำเทคนิค SEO อย่างจริงจัง ซึ่งลักษณะเด่นของเครื่องมือนี้ จะรายงานข้อมูลหน้าเว็บเพจบนไซต์ของคุณที่ได้รับการแสดงผลและการคลิกเข้าชมมากที่สุดจาก Google โดยตรวจสอบที่ฟิลด์ CTR (Click Through Rate) เพื่อดูหน้าเว็บของคุณที่ได้รับอัตราการคลิกที่ดีที่สุด ในส่วนสุดท้ายจะเป็นการปรับใช้องค์ประกอบของ Title และ Description tags กับหน้าเว็บที่ได้รับจำนวนคลิกที่โฆษณาเพื่อแสดงผลไม่ดี หรือ CTR ต่ำ เพื่อเพิ่มอัตราการคลิกเข้าชมมากยิ่งขึ้น

Google Analytics Referrer Spam Killer
เครื่องมือ Google Analytic Referrer Spam Killer จะเพิ่มตัวกรองในบัญชีของคุณ ซึ่งจะเข้าไปลบเว็บไซต์อ้างอิงที่เป็นสแปมออกจากเว็บไซต์คุณ โดยจะทำการลบลิงก์สแปมเหล่านี้ออกจากรายการโดเมนอ้างอิงในเว็บไซต์ทั้งหมด

Google Mobile-Friendly Test
เครื่องมือ Google Mobile-Friendly Test เป็นเครื่องมือที่สำคัญมากในปัจจุบัน เนื่องจาก Google เริ่มทำการลดอันดับเว็บไซต์ที่มีฟีเจอร์ไม่เหมาะสมกับการแสดงผลบนมือถือ ดังนั้นคุณต้องใช้เครื่องมือนี้ตรวจสอบว่าหน้าเพจใดบนเว็บไซต์ของคุณที่ต้องปรับให้เหมาะสมกับการใช้งานบนมือถือ เพียงแค่ป้อน URL ลงในเครื่อง Google Mobile-Friendly Test และคุณจะได้รับคำตอบว่าหน้าเว็บนี้เหมาะสำหรับการใช้งานบนมือถือหรือไม่

Google PageSpeed Insights
ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้วว่า Google ใช้ความเร็วในการโหลดเว็บไซต์เป็นปัจจัยประการหนึ่งในการจัดอันดับ ดังนั้นเครื่องมือ Google PageSpeed Insights จึงมีความสำคัญมาก ๆ ข้อมูลเชิงลึกของเครื่องมือนี้ จะบอกคุณว่า Google มีการประเมินอย่างไรสำหรับความเร็วการโหลดหน้าเพจเร็วปานสานฟ้าแลบ หรือช้าอย่างหอยทาก นอกจากนี้ยังให้คำแนะนำที่นำไปใช้ได้จริงซึ่งคุณสามารถนำไปใช้ในการปรับปรุงเพื่อเร่งความเร็วได้สำหรับการโหลดเว็บไซต์

Google Search Console
สำหรับ Google Search Console เป็นชุดเครื่องมือที่มีประโยชน์มาก ๆ ซึ่งเป็นเครื่องมือฟรีจากทาง Google โดยสามารถใช้ดูว่าคุณมีข้อมูล Meta ที่ซ้ำกันหนือไม่ จำนวนหน้าที่คุณจัดทำดัชนีมีกี่หน้า รวมทั้งตรวจเช็คปัญหาด้านความปลอดภัย และอื่น ๆ ซึ่งการใช้งานฟีเจอร์เด็ดของเครื่องมือนี้ สามารถทำได้โดยไปที่ “Overview”—>” Performance” เพื่อดูรายการคีย์หลักที่คุณจัดอันดับอยู่ ซึ่งจัดเรียงตามตำแหน่ง เพื่อให้คีย์เวิร์ดหลักอันดับที่ 1 อยู่ด้านบนสุด จากนั้นเลื่อนลงมาจนถึงอันดับที่ 10 – 25 ที่เป็นอันดับในผลการค้นหาของ Google ซึ่งหน้าเหล่านี้คุณสามารถดันให้ติดอันดับหน้าแรกได้ โดยการใช้เทคนิค SEO เช่น การเพิ่ม Internal links เข้าไปในหน้าเพจเหล่านี้ เพื่อเพิื่มการเชื่อมโยง อัตราการเข้าชม และความน่าเชื่อถือ

Google XML Sitemaps
สำหรับปลั๊กอิน WordPress ที่สร้างแผนผังเว็บไซต์ที่เป็นมิตรกับ SEO (SEO-friendly) ได้โดยอัตโนมัติ ต้องใช้เครื่องมือ Google XML Sitemaps แต่อย่างไรก็ตามหากคุณใช้ Yoast SEO Plugin อยู่เเล้ว เครื่องมือนี้ก็ไม่จำเป็น

GTmetrix
เครื่องมือ GTmetrix เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำหรับใช้ในการตรวจสอบความเร็วเว็บไซต์ ซึ่งจะเป็นการตรวจสอบจากการโหลดจริงขอวเว็บไซต์ นอกจากนั้นยังให้คำแนะนำในการทำเว็บไซต์ของคุณให้มีความเร็วที่เพิ่มขึ้น

HeadMasterSEO
หากคุณต้องการทราบว่าการเปลี่ยนเส้นทาง 301 ของเว็บไซต์มีการตั้งค่าที่ถูกต้องหรือไม่ หรือ Canonical URLs เป็นอย่างไร หรือคุณอาจไม่แน่ใจว่ามีไฟล์ robots.txt ที่เป็นตัวบล็อกไม่ให้ Google จัดทำดัชนีหน้าเว็บของคุณหรือไม่ ต้องเลือกใช้เครื่องมือ HeadMasterSEO ในการตรวจสอบปัญหาเหล่านี้

Hreflang Tags Generato Tool
สำหรับเครื่องมือ Hreflang Tags Generato เป็นเครื่องมือสำหรับการสร้างแท็ก Hreflang โดยแท็กนี้จะใช้สำหรับการกำหนดภาษาหลักของเว็บไซต์ เเละมีผลต่อการทำ SEO ซึ่งจะช่วยระบุตัวภาษาของเนื้อหาอย่างชัดเจน เเละตรงกับกลุ่มเป้าหมาย

Kill Duplicate
สำหรับเครื่องมือ Kill Duplicate ใช้ในการป้องกันและแสกนเว็บ เพื่อค้นหาคอนเทนต์ที่ใช้ในการขโมยเนื้อหา จะช่วยให้ข้อมูลภายในเว็บไซต์ของคุณปลอดภัย

LinkPatrol
สำหรับ LinkPatrol เป็นปลั๊กอิน WordPress ที่น่าสนใจมาก ๆ ซึ่งมีการแสดงให้เห็น Extermal Links ทั้งหมดภายในเว็บไซต์ของคุณ โดยฟีเจอร์เด็ดของเครื่องมือคือการลบหรือติดตามลิงก์จำนวนมากบนเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งหากใช้เครื่องมือนี้ไม่ต้องใช้เวลานาน เพียงแค่เลือกโดเมนที่คุณต้องการจะลบ หรือไม่อยากติดตามเเล้ว ใส่ลงไปใน LinkPatrol หลังจากนั้น เครื่องมือนี้จะจัดการทุกอย่างให้คุณแบบเสร็จสรรพ

Lipperhey
เครื่องมือ Lipperhey ใช้สำหรับการวิเคราะห์ปัญหาทางเทคนิค SEO และวิเคราะห์เนื้อหา SEO ในขั้นพื้นฐานของเว็บไซต์

Map Broker XMLSitemap Validator
เครื่องมือนี้สามารถเข้าใช้งานได้ฟรี ซึ่ง XML Sitemap Validator จะช่วยให้คุณแน่ใจได้ว่าเเผนผังไซต์ (Sitemap) มีความถูกต้อง และยังตรวจสอบว่าลิงก์ในแผนผังไซต์ใช้งานได้หรือไม่ได้

Microdata Generator
สำหรับเครื่องมือ Microdata Generator ใช้ในการสร้าง local SEO schma markup ให้เป็นเรื่องง่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งเหมาะสมกับผู้ที่ทำธุรกิจท้องถิ่น เพียงแค่คุณป้อนข้อมูลธุรกิจพื้นฐานของคุณ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ เวลาเปิดทำการ เป็นต้น

OnCrawl
เครื่องมือ OnCrawl เป็นเครื่องมือตรวจสอบเว็บไซต์ที่มั่นคง เช่นเดียวกับซอฟต์แวร์อื่น ๆ โดยเป็นเครื่องมือที่ตรวจสอบและให้ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาของ HTML ตรวจสอบเนื้อหาที่ซ้ำกัน และประสิทธิภาพของเว็บไซต์

Panguin Tool
หากคุณกำลังสงสัยว่าเว็บไซต์ของคุณโดน Panda, Panguin หรือบทลงโทษอื่น ๆ จาก Google หรือไม่ ซึ่งเครื่องมือ Panguin สามารถใช้งานได้โดยการเชื่อมเข้ากับ Google Analytics จากนั้นเครื่องมือจะแสดง Organic Traffic ของเว็บไซต์ว่าเป็นอย่างไรเพิ่มขึ้นหรือลดลง

Plugin SEO
สำหรับ Plugin SEO เป็นเครื่องมือสำหรับวิเคาะห์ On-Page SEO ที่สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว เเละใช้งานได้ฟรี ทั้งยังให้คำแนะนำในการแก้ไขปัญหาภายในเว็บไซต์ต่าง ๆ อีกด้วย

Raven Tools
เครื่องมือ Raven Tools เป็นชุดเครื่องมือระดับมืออาชีพที่ออกแบบมาสำหรับเอเจนซี่การตลาดดิจิทัล ซึ่งเครื่องมือนี้จะแสดงให้เห็นปัญหาภายในเว็บไซต์ และช่วยแนะนำการแก้ไขปัญหา SEO ที่เว็บไซต์ของคุณมี โดยเข้าไปที่ “Thin content” จากนั้นจะสามารถมองเห็นเนื้อหาที่อาจทำให้คุณเสี่ยงต่อการถูกลงโทษจาก Google Panda

Referral Ghost Spam Removal Tool
การอ้างอิง “ghost spam” ทำให้ข้อมูล Google Analytics ของคุณยุ่งเหยิงหรือไม่ เครื่องมือฟรี Referral Ghost Spam Removal Tool นี้จะช่วยในการกรองบอทสแปมออกจากเว็บอย่างรวดเร็ว โดยสร้างเซกเมนต์ใน GA ที่ละเว้นการรับส่งขอมูลจากเว็บไซต์ที่เป็นสแปม

Rel Nofollow Checkbox
สำหรับ Rel Nofollow Checkbox เป็นปลั๊กอิน WordPress ที่ช่วยให้คุณตั้งค่าลิงก์บนไซต์ของคุณเป็น “nofollow” ได้อย่างง่ายดาย

Screaming Frog SEO Log File Analyser
เครื่องมือทางเทคนิค SEO ส่วนใหญ่จะทำการสแกนรายการ URL และแจ้งให้คุณทราบเกี่ยวกับข้อผิดพลาดเเละโอกาสในการพบ แต่ Screaming Frog SEO Log File Analyser มีความแตกต่างกับเครื่องมืออื่น ๆ คือคุณสามารถดูได้ว่าบอทเครื่องมือค้นหาจาก Google และ Bing มีการโต้ตอบกับเว็บไซต์ของคุณอย่างไร เเละบ่อยเพีนงใด

Screaming Frog SEO Spider
สำหรับเครื่องมือ Screaming Frog SEO Spider เป็นเครื่องมือสำหรับเทคนิค SEO ที่ยอดเยี่ยมมาก ซึ่งสามารถใช้ในการระบุปัญหาทางเทคนิคที่ทำให้เว็บไซต์ของคุณไม่สามารถติดอันดับหน้าแรกบน Google ได้ โดยสำหรับเวอร์ชั่นที่ใช้งานได้ฟรี ก็สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเลยทีเดียว หรือหากใครอยากจะใช้เวอร์ชั่นที่เสียเงินก็ได้ การทำงานจะดีมากกว่าเเบบฟรีหลายเท่าตัว

Search Analytics for Sheets
เครื่องมือ Search Analytics for Sheets เป็นส่วนเสริมของ Google Sheet ที่ช่วยให้คุณสามารถขอ และสำรองข้อมูลจากประสิทธิภาพ และการจัดทำดัชนีของ Search Console ลงใน Spread Sheet ได้โดยตรง

SEO & Website Analysis (WooRank)
เครื่องมือ SEO & Website Analysis (WooRank) เป็นส่วนขยาย Chrome ที่ใช้งานฟรี โดยจะให้คุณได้ทราบถึงข้อมูลที่สำคัญจากเบราว์เซอร์ของคุณ เพียงแค่คลิกปุ่ม SEO & Website Analysis โดยการวิเคราะห์ของ WooRank ซึ่งจะทำการวิเคราะห์เมตริก SEO พื้นฐานของเพจคุณ เช่น Title tags ที่ยาวเกินไป นอกจากนั้นยังมีการตรวจเช็คในส่วนอื่น ๆ ของเว็บไซต์ ไม่ว่าการปรับให้เว็บไซตืเหมาะสำหรับการใช้งานบนมือถือ เเละความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ได้
และเครื่องมือนี้ ยังสามารถใช้ในการวิเคราะห์คู่แข่งได้อีกด้วย เนื่องจากจะแสดงให้เห็นถึงหน้า Facebook และ Twitter หรือสื่อการตลาดอื่น ๆ ของคู่แข่งที่ใช้บนเว็บไซต์ ทั้งยังทำให้คุณสามารถทราบได้ถึงค่าประมาณการเข้าชมทั้งหมดในเว็บไซต์ของคุณได้

SEO Monitor
สำหรับ SEO Monitor เป็นแดชบอร์ดแบบครบวงจรสำหรับการตรวจสอบประสิทธิภาพในการทำ SEO บนเว็บไซตืของคุณ ฟีเจอร์ที่โดดเด่นคือการนำข้อมูลของ Google Analytic มารวมเข้ากับการจัดอันดับของเว็บไซต์คุณ และยังช่วยในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ บนไซต์ ไม่เพียงเท่านั้นยังช่วยค้นหาคีย์เวิร์ดหลักที่เหมาะสมสำหรับคุณ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้การทำ SEO ประสิทธิภาพที่สูงมากขึ้น

SEO Site Checkup
สำหรับ SEO Site Checkup เป็นเครื่องมือตรวจสอบ SEO ที่สามารถใช้งานได้ง่ายมาก ซึ่งใช้ใในการวิเคราะห์ข้อมูลของ Backlink รายงานสถานะการออนไลน์ และให้คำแนะนำเกี่ยวกับความเร็วของเว็บเพจอีกด้วย ยิ่งหากใครที่ทำงานด้านการตลาดเครื่องมือนี้สามารถรายงาน White label สำหรับเอเจนซี่การตลาดดิจิทัลได้อย่างเฉียบคม

SEObility
สำหรับเครื่องมือ SEObility ใช้สำหรับการตรวจสอบเว็บไซต์ ซึ่งทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง และฟีเจอร์ที่โดดเด่นของเครื่องมือคือ “Page Levels” การใช้งานฟีเจอร์นี้จะเผยให้เห็นหน้าเว็บที่มีการคลิกจำนวนมาก ซึ่งหน้าเว็บเพจเหล่านี้อาจจะจัดทำดัชนีได้ยาก จึงต้องใช้เครื่องมือนี้ช่วย เพื่อให้เว็บเพจถูกจัดทำดัชนี และมีโอกาสติดหน้าแรกบน Google ได้

SEOmator
เครื่องมือ SEOmator เป็นชุดซอฟต์แวร์ที่ใช้ตรวจสอบ SEO ซึ่งจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ SEO ในเว็บไซต์ของคุณ ว่ามีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด

SERPmetrics
เครื่องมือ SERPmetrics สามารถใช้ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของอันดับเว็บไซต์ได้ หากคุณต้องการจะทราบ เพียงเข้าไปในเครื่องมือ เเละพูดว่า “Google has been over the last 30 days” ซึ่งเป็นการถามถึงความผันผวนของ Google ในระยะเวลา 30 วันที่ผ่านมา จากนั้นคุณจะทราบอันดับเว็บไซต์ของคุณที่อัพเดตใหม่ล่าสุด

Simple Htaccess Redirects & Rewrite Generator
เครื่องมือนี้สามารถเรียกสั้น ๆ ได้ว่า Aleyda Solis’s tool ซึ่งจะทำให้คุณมั่นใจว่าการเปลี่ยนเส้นทางของเว็บไซต์จะได้รับการตั้งค่าอย่างถูกค้องก่อนที่คุณจะเริ่มใช้งาน

Site Analyzer
สำหรับ Site Analyzer เป็นเครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์ที่มีคุณภาพสูง สามารถทำการตรวจสอบหน้าเพจได้จำนวนหลาย ๆ หน้าพร้อมกัน และรายงานข้อมูลต่าง ๆ มากมายให้กับคุณ ทั้งยังเกี่ยวข้องกับการปรับหน้าเพจให้เหมาะสม

Site Condor
เครื่องมือ Site Condor เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการตรวจสอบเว็บไซต์เชิงลึก ไม่ว่าจะเป็นการตรวจเช็คลิงก์เสีย หรือแท็กชื่อที่ยาวเกินไป ซึ่งเครื่องมือนี้จะทำการระบุปัญหาทั้งหมดที่พบ เพื่อให้แจ้งกับคุณทราบ รวมทั้งยังสามารถดูคำแนะนำในส่วนของวิธีแก้ไขได้อีกด้วย โดยฟีเจอร์ที่โดดเด่นของเครื่องมือนี้คือ “Site Graph” ซึ่งจะใช้ในการแสดงภาพโครงสร้างลิงก์ของเว็บไซต์ หรือเรียกว่า PageRank เป็นขั้นตอนในการวิเคราะห์เว็บลิงก์ และความสำคัญของเว็บเพจ โดยหากเว็บไซต์ไหนที่มี PageRank สูง แสดงว่าเว็บไซต์มีโอกาสที่จะได้รับโอกาสในการจัดอันดับให้อยู่หน้าแรกบน Google

Siteliner
เครื่องมือ Siteliner เรียกได้ว่าเป็นเครื่องสแกนเทคนิค SEO ในเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากสำหรับการระบุปัญหา หรือเนื้อหาคอนเทนต์ที่ซ้ำกันในเว็บไซต์ของคุณ

Topvisor
หากคุณกำลังทำเทคนิค SEO บนเว็บไซต์ของคุณ ต้องเลือกใชเครื่องมือ Topvisor เป็นตัวช่วยขั้นเทพ ซึ่งเครื่องมือนี้สามารถใช้ในการระบุปัญหาในส่วนของโดเมนต่าง ๆ โดยสามารถใช้ตรวจเช็คโดเมนได้มากกว่า 10 โดเมนพร้อม ๆ กัน

Website Grader by HubSpot
เครื่องมือ Website Grader by Hubspot เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มาก ๆ ซึ่งใช้ในการประเมินให้คะแนนเว็บไซต์ของคุณ โดยวัดจากประสิทธิภาพของเว็บไซต์ อาทิ การเเสดงผลของเว็บไซต์, PageSpeed, Mobile optimization และ On-Page SEO

Website Pernalty Indicator
ถ้าหากคุณกำลังสงสัยว่าเว็บไซต์ของคุณได้รับบนลงโทษจาก Google (Google Penalty) หรือไม่ ต้องเลือกใช้เครื่องมือ Website Pernalty Indicator ซึ่งจะตรวจสอบได้ว่าทำไมถึงได้รับบทลงโทษ จนทำให้เว็บไซต์มีอันดับต่ำลง ซึ่งจะเข้าตรวจสอบในส่วนของ Mobilegeddon ของ Google โดยเป็นอัลกอริทึมที่ใช้ในการวิเคราะห์หน้าเว็บว่าเหมาะสมต่อการแสดงผลบนมือถือหรือไม่ หากไม่เหมสมอันดับเว็บไซต์ของคุณอาจมีอันดับลดลง

Whitespark
หากคุณกำลังทำ local SEO เเนะนำว่าคุณต้องมีเครื่องมือ Whitespark ซึ่งสามารถใช้ในการค้นหาอ้างอิง NAP จำนวนหลายร้อยรายการพร้อม ๆ กัน ในไม่กี่นาที โดยสามารถใช้ร่วมกับ Google Analytics

Woorank
Woorank เป็นเครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์ขั้นเทพระดับเเนวหน้า ซึ่งเครื่องมือนี้จะรายงานทุกสิ่ง ทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับประสิทธิภาพของการทำ SEO บนเว็บไซต์ของคุณ เพื่อให้เว็บไซต์มีประสิทธิภาพ และคุณภาพสูงสุด

Yoast SEO Plugin
เชื่อเลยว่าหากใครที่กำลังใช้งาน WordPress ต้องรู้จักปลั๊กอินอันดับ 1 อย่าง Yoast SEO แน่นอน ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้งานได้จริง โดยมีฟีเจอร์สุดเจ๋งคือ “Bulk Editor” เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้คุณแก้ไขหน้าเว็บเพจได้หลายสิบหน้าเพียงแค่คลิกครั้งเดียว เครื่องมือนี้จะช่วยในการตรวจสอบเนื้อหา และแสดงผลการตรวจสอบด้วยสัญญาณไฟจราจรสีเขียว แสด และแดง พร้อมกับเเนะนำว่าเนื้อหาส่วนไหนบ้างในเว็บไซต์ที่ควรปรับปรุง โดยสัญญาณไฟเเต่ละสีมีความหมายดังนี้
- สีแดง หมายถึง ต้องมีการปรับปรุงเนื้อหาบางส่วนให้ดีมากขึ้น
- สีเหลือง หมายถึง เนื้อหาบทความ คอนเทนต์อยู่ในระดับที่พอใช้ได้
- สีเขียว หมายถึง เนื้อหาบทความ คอนเทนต์อยู่ในระดับดีมาก ถูกต้องตามหลักการ SEO
ดังนั้นจึงเป็นปลั๊กอินที่แนะนำว่าควรต้องใช้ เพื่อปรับปรุงเนื้อหาภายในเว็บไซต์ให้มีคุณภาพสูงสุด

Zadroweb SEO Auditor
เครื่องมือสุดท้ายที่อยากแนะนำให้กับผู้ที่กำลังทำเทคนิค SEO บนเว็บไซต์ นั่นก็คือเครื่องมือ Zadroweb SEO Auditor ซึ่งจะใช้สำหรับการตรวจสอบ SEO เพื่อให้เห็นภาพรวมว่าการทำ SEO ภายในเว็บไซต์มีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด โดยเครื่องมือนี้สามารถใช้งานได้ฟรีอีกด้วย
เครื่องมือสำหรับการค้นหาคีย์เวิร์ดที่ดีที่สุดสำหรับการทำ SEO

AdWord & SEO Keyword Permutation Generator
หากคุณกำลังมองหาวิธีสำหรับการค้นหาคีย์เวิร์ดใหม่ ๆ แนะนำเครื่องมือนี้เลย AdWord ซึ่งจะช่วยให้คุณค้นพบกับคีย์เวิร์ดที่น่าสนใจมาก ๆ เนื่องจากว่าเครื่องมือนี้จะมีการสร้างคำใหม่โดยการเรียงสับเปลี่ยนคีย์เวิร์ด ซึ่งเป็นกลยุทธ์ดั้งเดิมที่มีมานานแล้ว นอกจากนั้นยังมีเครื่องมือการเรียงสับเปลี่ยนคำของ Dan Zambonini ที่เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือยอดเยี่ยมสำหรับการสร้างคีย์เวิร์ดที่ดีที่สุดให้กับเว็บไซต์ของคุณ

Answer The Public
สำหรับเครื่องมือ Answer The Public เป็นโปรแกรมที่ใช้สำหรับค้นหาคีย์เวิร์ด ซึ่งเหมาะสำหรับใช้ในการค้นหาคำคีย์เวิร์ดเเบบยาว และคีย์เวิร์ดในรูปแบบคำถาม เพียงแค่คุณพิมพ์คีย์เวิร์ดสั้น ๆ ลงไปใน Answer The Public เท่านั้น เครื่องมือจะแสดงคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมให้กับคุณ

ClearScope
เครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ด ClearScope จะช่วยให้คุณสร้างเนื้อบทความ คอนเทนต์ที่เหมาะสมกับ Hummingbird และ Google โดยการใช้งานเพียงแค่คุณพิมพ์คีย์เวิร์ดสั้น ๆ ลงไปเท่านั้น ClearScope จะแสดงรายการคีย์เวิร์ดที่คุณควรใส่ไว้ในเนื้อหาของคุณ รวมทั้งบอกด้วยว่าเเต่ละคำต้องใส่จำนวนเท่าไหร่ในแต่ละบทความ

Exploding Topics
เครื่องมือ Exploding Topics เป็นเครื่องมือสำหรับรวบรวมหัวข้อ และคีย์เวิร์ดที่น่าสนใจ ซึ่งจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณสามารถเเข่งขันกับคู่แข่งได้ดี แนะนำเลยว่าควรทดลองใช้ดู

FAQfox
สำหรับ FAQfox เป็นเครื่องมือในการค้นหาคีย์หลัก ที่ใช้งานได้ง่ายซึ่งช่วยให้คุณสามารถค้นหาคำถามที่ผู้ค้นหาถามผ่านช่องทางออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว และยังช่วยในการแก้ไขหัวข้อคอนเทนต์ และคีย์เวิร์ดให้ถูกต้องตามหลักของ SEO

Google Keyword Planner
เครื่องมือ Google Keyword Planner เป็นเครื่องมือฟรีของ Google ซึ่งจุดเด่นคือ เครื่องมือนี้สามารถบอกคุณได้ว่าผู้ที่ค้นหาเกี่ยวกับคีย์เวิร์ดนั้น ๆ มีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้า และบริการอะไรจากคุณมากที่สุด หรือน้อยที่สุด โดยสามารถเข้าไปตรวจเช็คได้ที่ “Competition” และ “top of page bid” นอกจากนี้ยังสามารรายงานปริมาณการค้นหาของคีย์เวิร์ดได้อีกด้วย

Google Location Changer (SERPS)
สำหรับเครื่องมือ Google Location Changer ไม่ได้เป็นเครื่องมือที่ใช้ค้นหาคีย์เวิร์ด แต่สามารถใช้ในการแสดงข้อมูลตำเเหน่งได้อย่างละเอียด นอกจากนั้นยังช่วยให้คุณสามารถเห็น SERPs เฉพาะในแต่ละพื้นที่ที่แตกต่างกันไป เหมาะสำหรับการทำ local SEO เป็นอย่างมาก

Google Trends
การใช้เครื่องมือ Google Trends จะช่วยให้ทราบว่าคีย์เวิร์ดที่คุณใช้นั้นได้รับความนิยมมากน้อยเพียงใด กำลังอยู่ในกระแสหรือไม่ โดยวิธีการใช้งานให้เข้าไปที่หน้าเพจ และเลื่อนลงไปด้านล่างสุดของเพจ จากนั้นดูที่ “Queries” ซึ่งจะแสดงคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของคุณ และเป็ยคีย์เวิร์ดที่กำลังอยู่ในเทรนด์

GrepWords
เครื่องมือ GrepWords เป็นเครื่องมือที่สามารถใช้ในการค้นหาคีย์หลักได้ และมาพร้อมกับราคาน่าคบหา สามารถแสดงคำถามที่ผู้ค้นหามักจะถามในโลกออนไลน์ให้กับคุณ ซึ่งฟีเจอร์เด็ดคือ “Divergent” เป็นฟีเจอร์ที่แสดงให้เห็นคีย์เวิร์ดที่มีเเนวโน้มการค้นหาที่สูงขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งของปี เช่น ในช่วงวันฮาโลวีน คีย์เวิร์ดที่มีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นในแต่ละปีก็คือ “costumes” เป็นต้น

HitTail
สำหรับเครื่องมือ HitTail สามารถใช้งานได้ดีมาก เมื่อคุณใช้ทำ 2 สิ่งดังต่อไปนี้
- เครื่องมือนี้จะช่วยให้เห็นว่าคีย์เวิร์ดใดที่มีแนวโน้มในการดึงดูดการเข้าชมให้กับคุณมากที่สุด
- ช่วยแนะนำคีย์เวิร์ดที่น่าสนใจ เหมาะสมกับเว็บไซต์ของคุณ และที่สำคัญจะเป็นคำใหม่ ๆ ซึ่งคุณไม่เคยเห็นจากเครื่องมืออื่น ๆ มาก่อน

Imforsmb.com’s Bulk Keyword Generator
หากคุณกำลังทำ local SEO ให้กับธุรกิจท้องถิ่น เครื่องมือ Imforsmb.com’s Bulk Keyword Generator สามารถช่วยให้คุณค้นหาคีย์เวิร์ดในท้องถิ่นได้ ซึ่งจะเป็นคำที่ลููกค้าในพื้นที่ หรือท้องถิ่นนั้น ๆ มักใช้ในการค้นหา ตัวอย่างเช่น หากคุณเจาะกลุ่มว่าลูกค้าคือช่างประปา ในเมืองบอสตัน ระบบของเครื่องมือจะเเสดงรายการคีย์เวิร์ด 40 คำ ให้กับคุณ ซึ่งเป็นคำที่ลูกค้าอาจใช้ค้นหาใน Google

iSpionage
เครื่องมือ iSpionage ใช้สำหรับการค้นหาคีย์เวิร์ด ซึ่งมีการทำงานคล้ายคลึงกับ Semrush แต่เครื่องมือนี้จะมุ่งเน้นไปที่ PPC peeps เสียมากกว่า โดยมีฟีเจอร์เด็ดคือ “Share of Voice” ซึ่งใช้ในการบอกถึงปริมาณการเข้าชมแบบออร์แกนิคของเว็บไซต์ที่อาจเกิดขึ้นได้ใน Search Engine ต่าง ๆ เช่น Google, Yahoo และ Bing

Jaaxy
เครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ดอีกหนึ่งเครื่องมือที่ใช้งานง่ายมากก็คือ Jaaxy ซึ่งความโดดเด่นสำหรับการใช้งานเครื่องมือนี้ คือ สามารถค้นหาคีย์เวิร์ดที่มีความเกี่ยวข้องกัน ๆ มาก หรือเป็นคีย์เวิร์ดที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน (closely-related keywords) ได้มากมายหลายคำให้กับคุณ

Keyword Eye
เครื่องมือ Keyword Eye เป็นเครื่องมือสำหรับค้นหาคีย์เวิร์ดที่มีความแตกต่างจากเครื่องมืออื่น ๆ เป็นอย่างมาก สามารถแนะนำคีย์เวิร์ดในรูปเเบบของการจับสำนวนหรือคำมารวมกัน (Word cloud) ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถกำหนดรหัสสีคีย์เวิร์ดตามการแข่งขันของ AdWords ได้อีกด้วย ซึ่งเป็นการโษณาที่ใช้คีย์เวิร์ดในการเจาะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย

Keyword Revealer
สำหรับเครื่องมือ Keyword Revealer เป็นเครื่องมือที่ฟังก์ชั่นสุดเจ๋งอย่าง “Keyword Tree” ซึ่งจะมีการเเสดงผลการค้นหาคีย์เวิร์ดแบบแตกกิ่งก้านสาขา จากคีย์เวิร์ดหลัก (Main keyword) ไปจนถึงคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง (Related Keyword) เพียงเเค่คุณคลิกที่คำว่า “branch” เท่านั้น คีย์เวิร์ดต่าง ๆ ก็จะแสดงออกมาให้คุณเห็น เรียกได้ว่าเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ และน่าใช้งานมาก ๆ

Keyword Snatcher
เครื่องมือ Keyword Snatcher สามารถค้นหาคีย์เวิร์ดได้เป็นจำนวนมาก เมื่อเทียบกับเครื่องมืออื่น ๆ เนื่องจากสามารถค้นหาคีย์เวิร์ดได้จากแหล่งออนไลน์ต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Ebay, Amazon และแม้เเต่ Yahoo แต่อย่างไรก็ตามก็ยังคงมีข้อจำกัดบ้างเล็กน้อย เนื่องจากเครื่องมือนี้ไม่สามารถแสดงให้คุณเห็นว่ามีปริมาณการค้นหาของคีย์เวิร์ดมากน้อยเพียงใดนั่นเอง

Keyword Tool & Content Assistant
สำหรับเครื่องมือ Keyword Tool & Content Assistant นั้นมีความโดดเด่นที่ฟังก์ชั่น “Content Assistant” ซึ่งจะช่วยให้คุณค้นพบคีย์เวิร์ดของ LSI จำนวนมากที่คุณจะสามารถใช้เพื่อเพิ่มเนื้อหาคอนเทนต์ของคุณได้

Keyword Tool Dominator
เครื่องมือ Keyword Tool Dominator เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมคีย์เวิร์ดต่าง ๆ ซึ่งเป็นคำแนะนำการเติมข้อความอัตโนมัติ จากเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่น่าเชื่อถือ เช่น Google, Youtube, Amazon, Bing และ Etsy เป็นต้น

Keyworddit
สำหรับเครื่องมือ Keyworddit จะใช้ในการแยกคีย์เวิร์ดจาก Reddit subreddit ซึ่งจะดูจากจำนวนความคิดเห็น เพียงเเค่คุณป้อนชืิ่อของ subreddit ลงไปในเครื่องมือนี้ จากนั้นจะเห็นรายการคีย์เวิร์ดที่ได้รับความนิยมจาก subreddit ซึ่งจะจัดเรียงตามปริมาณการค้นหารายเดือน

KeywordIn
เครื่องมือ KeywordIn เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการสร้างคีย์เวิร์ดใหม่ ๆ ซึ่งเมื่อใข้เครื่องมือนี้เเล้ว คุณสามารถนำคีย์เวิร์ดใหม่ที่ได้ ไปตรวจเช็คซ้ำด้วย Google Keyword Planner เพื่อตรวจเช็คให้แน่ใจว่ามีผู้ค้นหาคีย์เวิร์ดนี้จริง ๆ หรือไม่

Keywords Everywhere
สำหรับ Keywords Everywhere เป็นเครื่องมือเสริมของ Chrome เเต่ก็สามารถใช้บริการบน FireFox ได้ ซึ่งการทำงานของเครื่องมือนี้จะแทรกมูลเกี่ยวกับการค้นหาคีย์เวิร์ดแบบไดนามิกลงในเว็บไซต์ที่คุณเข้าชมบ่อยมากที่สุด ตัวอย่างเช่น เครื่องมือนี้จะมีการแทรกข้อมูล CPC และปริมาณการค้นหารายเดือนลงของคีย์เวิร์ดลงใน Google Search Console ของคุณ

KeywordTool.io
สำหรับ KeywordTool.io เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการค้นหาคีย์เวิร์ดอื่น ๆ ที่มีความใกล้เคียงกับคีย์เวิร์ดหลักที่คุณใช้ นอกจากนั้นยังสามารถใช้ในการค้นหาคีย์เวิร์ดยาว (Long-tail Keyword) ได้อีกด้วย

Kombinator
แม้ว่า Kombinator จะถูกออกแบบมาใช้สำหรับ AdWords แต่ก็สามารถนำมาใช้ในการค้นหาคีย์เวิร์ดได้ เพียงแค่คุณใส่คีย์เวิร์ดต่าง ๆ ลงไปในเครื่องมือ จากนั้นมันจะทำการรวบรวมคีย์เวิร์ดที่ใส่ลงไปทั้งหมดเข้าด้วยกัน และอัปโหลดไปยัง Google Ketword Planner เพื่อตรวจสอบปริมาณการค้นหา

Kwfinder.com
สำหรับ kwfinder.com นั้นเป็นเครื่องมือที่สามารถบอกได้ว่าคีย์เวิร์ดที่คุณสนใจนั้นอยู่ในเทรนด์หรือไม่ โดยจะแสดงผลเป็นตารางให้เห็น รวมทั้งยังรายงานปริมาณการค้นหารายเดือน ปริมาณค่าคลิกในการทำโฆษณา (CPC) และคะแนนความยากง่ายของคีย์เวิร์ดได้อีกด้วย

Long Tail Pro
เครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ด Long Tail Pro สามารถใช้งานได้ง่ายมาก เพียงแค่ป้อนคีย์เวิร์ดลงไป จากนั้นจะได้รับคำเเนะนำสำหรับคีย์เวิร์ดนั้น ๆ รวมทั้งเหมาะสำหรับการใช้ดูคีย์เวิร์ดแบบเฉพาะเจาะจง เช่น หากคุณต้องการค้นหาคีย์เวิร์ดที่มีปริมาณการค้นหา 1,500-2,100 ครั้งต่อเดือน เเละมีการเสนอราคาอย่างน้อยประมาณ 85.38 บาท เครื่องมือนี้จะช่วยคุณกรองคีย์เวิร์ดที่มีคุณลักษณะตามที่ระบุไว้ได้อย่างง่ายดาย และมีประสิทธิภาพ

Power Suggest Pro
Power Suggest Pro เป็นเครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ดบน Desktop เพียงแค่ป้อนคีย์เวิร์ดหลัก และจากนั้นจะปรากฏคำต่าง ๆ มากมายจากเครื่องมือการค้นหา อาทิ Google และ Wikipedia เป็นต้น ซึ่งเหมสาะสำหรับการหาไอเดียคีย์เวิร์ดใหม่ ๆ

Question DB
สำหรับเครื่องมือ Question DB เป็นเครื่องมือสำหรับการตอบคำถามสาธารณะ และเป็นเครื่องมือสำหรับการค้นหาคำถามยอดนิยม โดยคุณสามารถจัดเรียงคำถามตามความนิยม หรือหัวข้อที่อยู่ในเทรนด์ได้ รวมทั้งยังดูที่มาของคำถามแต่ละข้อได้

SanityCheck
สำหรับ SanityCheck จะทำงานร่วมกับ Google Search Console โดยมีฟีเจอร์เด็ดคือการค้นหาคีย์เวิร์ดที่โดดเด่น ซึ่งจะเป็นคำที่ติดอันดับหน้า 2 หรือ 3 ของ Google โดยคีย์เวิร์ดเหล่านี้ไม่เหมาะสมที่จะค้นหาใน Google Search Console แนะนำว่าใช้เครื่องมือนี้สำหรับค้นหาคีย์เวิร์ดที่ไม่ได้ติดอันดับหน้าแรกจะดีกว่า

SECockpit
SECockpit เป็นเครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ดทีทันสมัยมากที่สุดในตอนนี้เลยก็ว่าได้ เพียงแค่คุณป้อนคีย์เวิร์ดลงไปเท่านั้น เครื่องมือนี้จะแสดงรายคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องให้กับคุณ ไม่เพียงเท่านั้น ยังสามารถแยกคีย์เวิร์ดที่มีการแข่งขันต่ำได้อีกด้วย โดยดูจากค่า CPC ใน AdWords เเละยังสามารถแสดงผลการค้นหาคีย์เวิร์ดจากช่องทางออนไลน์บนแพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น YouTube, Ebat เเละ Amazon เป็นต้น

Seed Keywords
สำหรับ Seed Keywords เป็นเครื่องมือการค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ ซึ่งจะเป็นคำกว้าง ๆ ไม่ได้เจาะจง เเต่อย่างไรก็ตามจะเป็นคีย์เวิร์ดที่มีปริมาณการค้นหาสูง เนื่องจากเป็นคำที่ไม่จำเพาะนั้นเอง สามารถค้นพบได้โดยทั่วไป โดยผลลัพธ์ของการค้นหานี้คุณสามารถส่งออกรายการคีย์เวิร์ดที่เเสดงบนเครื่องมือเป็นไฟล์ CSV ได้

Semrush
เครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ดสุดฮิต Semrush ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ทำ SEO เป็นอย่างมาก ใช้ในการติดตามเว็บไซต์คู่แข่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเครื่องมือนี้มีฟีเจอร์ที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น Keyword research, On-Page SEO, Content, Link building, Ranking tracking, Market research, PPC และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งฟีเจอร์เด็ดคือ “Top Pages” ที่มีการแสดงหน้าต่าง ๆ บนเว็บไซต์คู่แข่งให้คุณได้เห็น ดังนั้นจะทำให้คุณสามารถติดตามเว็บไซต์คู่แข่งขันได้ง่ายมาก

SERPStat
เครื่องมือ SERPStat เป็นเครื่องมือรวบรวมไอเดียคีย์เวิร์ดที่ยอดเยี่ยมให้กับคุณ นอกจากนัั้นยังแสดงผลปริมาณการค้น การแข่งขัน และฟีเจอร์อื่น ๆ อีกมากมาย โดยฟีเจอร์ที่โดดเด่น คือ “Search Question” ซึ่งจะแสดงคำถามยอดนิยมที่ผู้คนมักถามเกี่ยวกับหัวข้อในเว็บไซต์ของคุณ

SimilarWeb
SimilarWeb เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณเห็นภาพรวมจำนวนการเข้าชมเว็บไซต์ของคู่แข่ง และยังมีฟีเจอร์เด็ดอย่าง “Similar Sites” ซึ่งจะแสดงผลลัพธ์ข้อมูลเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องหรือเป็นคู่แข่งของเว็บคุณ

Soovle
เครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ด Soovle เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่เหมาะสำหรับการค้นหาไอเดียใหม่ ๆ ซึ่ง Soovle จะดึงข้อมูลคีย์เวิร์ดมากจาก Search Engine ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Google, Yahoo และ Bing เป็นต้น เพียงแค่คุณทำการป้อนคีย์เวิร์ดลงไปในเครื่องมือเท่านั้น จากนั้นจะได้รายการคีย์เวิร์ดที่เหมาะสำหรับเว็บไซต์ของคุณ

SpyFu
เครื่องมือ SpyFu มีฟีเจอร์สุดเจ๋งอย่าง “Keyword Kombat” ให้ใช้งาน ซึ่งจะช่วยในการค้นหาคีย์เวิร์ดที่คู่แข่งขันของคุณมี และเป็นคีย์เวิร์ดที่ติดอันดับ

StoryBase
StoryBase เป็นเครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ดเเบบยาว “Long Tail Keyword” เพียงแค่คุณป้อนคีย์เวิร์ดลงไป จากนั้นจะแสดงผลเป็นคำถาม หรือวลีหลายร้อยรายการที่ผู้คนใช้เพื่ออธิบายหัวข้อบนเว็บไซต์ของคุณ

TermExplorer
เครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ดอีกอันหนึ่งที่น่าสนใจมากคือ TermExplorer ซึ่งจะแสดงรายการไอเดียคีย์เวิร์ดหลายพันรายการ รวมทั้งข้อมูลการแข่งขันทั่วไปอย่างละเอียดให้กับคุณ

TwinWord
เครื่องมือ Twinword ใช้สำหรับการค้นหาคีย์เวิร์ดที่มีความเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของคุณสูง ซึ่งสามารถใช้งานได้ฟรีอีกด้วย

UberSuggest
UberSuggest เป็นเครื่องมือในรูปแบบเว็บไซต์ที่จะช่วยในการวิเคราะห์คีย์เวิร์ด ที่เหมาะสมกับเว็บไซต์ หรือธุรกิจของคุณ รวมทั้งยังใช้ในการวิเคราะห์ปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์จากการค้นหาคีย์เวิร์ดของเว็บคู่แข่ง เเละไม่เพียงเท่านี้คุณยังสามารถใช้ในการตรวจสอบ Backlink ในเว็บไซต์ได้อีกด้วย

Webtexttool
สำหรับ Webtexttool เป็นเครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ด และเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาภายในเว็บไซต์ ซึ่งมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือ “Overall” เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้คุณทราบว่าคีย์เวิร์ดไหนที่มีปริมาณการค้นหา และอัตราการแข่งขันที่ดีที่สุด

Wondersearch
เครื่องมือสำหรับค้นหาคีย์เวิร์ดใหม่มาเเรง Wondersearch ซึ่งสามารถสร้างคีย์เวิร์ดได้จากทาง Google โดยเป็นการรวบรวมคีย์เวิร์ดจากคำถามที่ผู้คนมักค้นหาบน Google

Wordstream’s Free Keyword Tools
แม้ว่าเครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ดอย่าง Wordstream จะสร้างขึ้นสำหรับ AdWords แต่ก็สามารถใช้ในการเสิร์ชหาคีย์เวิร์ดได้เช่นกัน ซึ่งมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่าง “Keyword Niche Finder” จะช่วยให้คุณสามารถรวบรวมคีย์เวิร์ดหลายคำเอาไว้ด้วยกัน

WordTracker
สำหรับ WordTracker จะมีดัชนีภายในของคีย์เวิร์ดอยู่ ซึ่งหมายความว่าคุณจะพบคีย์เวิร์ดยาว (Long Tail Keyword) ที่ Google Keyword Planner ไม่ได้แสดงให้คุณเห็น โดยเครื่องมือนี้ยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับการแข่งขันอันดับเว็บไซต์ในหน้าแรกแบบออร์แกนิคอีกด้วย

Wordtracker Scout
Wordtracker Scout เป็นเครื่องมือส่วนขยายจาก Chrome ที่สามารถใช้งานได้ฟรี ซึ่งใช้ในการค้นหาคีย์เวิร์ด เพียงแค่คุณเข้าไปที่บทความของเว็บไซต์ และคลิกปุ่ม “W” เท่านั้น เครื่องมือนี้จะเริ่มทำการสแกนหน้าเพจในเว็บไซต์ของคุณ เพื่อหาคีย์เวิร์ดที่เหมาะสม
เครื่องมือสำหรับเช็คอันดับเว็บไซต์

Advanced Web Ranking
เครื่องมือ Advanced Web Ranking เป็นเครื่องมือติดตามอันดับ และใช้สำหรับการค้นหาคีย์เวิร์ด ซึ่งจะนำคุณสมบัติบางประการมาจากเครื่องมืออย่างเช่น Semrush เเละ Authority Labs เอามารวมไว้ด้วยกันในที่เดียว

Agency Analytics
เครื่องมือรายงานผลอย่าง Agency Analytics ออกแบบมาเพื่อใช้งานสำหรับเอเจนซี่การตลาดดิจิทัล เพื่อช่วยให้ลูกค้าของคุณเข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่าการทำ SEO และการใช้โซเชียล มีเดียมีความสำคัญอย่างไร ซึ่งเครื่องมือนี้สามารถใช้งานร่วมได้กับ Google Analytics, Youtube เเละTwitter เป็นต้น

AMZ Tracker
หากคุณกำลังขายสินค้าใน Amazon เครื่องมือ AMZ Tracker จะช่วยให้คุณสามารถติดตามการจัดอันดับบนเว็บไซต์ของ Amazon ได้ ซึ่งฟีเจอร์เด็ดก็คือ “On Page Analyzer” จะใช้ในการประเมินหน้าผลิตภัณฑ์ของคุณในเว็บไซต์อเมซอน เพื่อตรวจเช็คว่าระบบตรงตามหลัก SEO หรือไม่ รวมทั้งติดตามในส่วนของประสิทธิภาพรูปภาพต่าง ๆ ที่ใช้ในการขายสินค้าออนไลน์

Authority Labs
สำหรับ Authority Labs เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการติดตามกันจัดอันดับที่น่าเชื่อถือ และใช้งานง่าย โดยการติดตามคีย์เวิร์ดในการจัดอันดับ ไม่เพียงเท่านั้นเครื่องมือนี้ยังใช้ในการติดตามผลลัพธ์ของ Google+Local อีกด้วย

GeoRanker
GeoRanker เป็นเครื่องมือติดตามอันดับของ local SEO (Google Maps) ขั้นสูง ซึ่งคุณจะต้องเลือกคีย์เวิร์ด และที่ตั้งของธุรกิจ เเละรอรับรายงานแสดงผลลัพธ์สำหรับอันดับของเว็บไซต์ธุรกิจท้องถิ่นของคุณ

Microsite Masters
สำหรับ Microsite Masters เป็นเครื่องมือติดตามอันดับเว็บไซต์ที่แข็งแกร่งมาก ซึ่งจะมีการแสดงผลในรูปแบบของสกอร์บอร์ด จะแสดงคีย์เวิร์ดที่มีการเคลื่อนไหวมากที่สุด หรือได้รับการค้นหามากที่สุดนนนั่นเอง

NightWatch
สำหรับการใช้งาน NightWatch จะเป็น Dashboard SEO ขั้นสูงที่มี UI แห่งอนาคต ซึ่งคุณสามารถดูการจัดอันดับเว็บไซต์ในปัจจุบันได้ ติดตามจำนวนการเข้าชมเว็บไซต์ การกระจายคีย์เวิร์ด และอื่น ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

Pro Rank Tracker
Pro Rank Tracker เป็นเครื่องมือติดตามอันดับเว็บไซต์ที่มีคุณภาพสูง มาพร้อมอินเทอร์เฟซผู้ใช้ที่ยอดเยี่ยม หากคุณกำลังติดตามคีย์เวิร์ดหหลายร้อยคำ หรือพันคำ คุณสามารถจัดกลุ่มคีย์เวิร์ดเป็นหมวดหมู่ได้ เพื่อจัดระเบียบให้ง่ายต่อการใช้งาน และแบ่งประเภทคีย์เวิร์ด

Rank Ranger
เครื่องมือติดตามอันดับเว็บไซต์ Rank Ranger มีความน่าเชื่อถือสูง ซึ่งมาพร้อมกับคุณสมบัติมากมาย เช่น การตรวจสอบ On-Page audit, Keyword research และการวิเคราะห์อัตราการแข่งขันได้อีกด้วย

Rival IQ
สำหรับเครื่องมือ Rival IQ จะทำให้ช่องทางโซเชียลมีเดีย และการทำ SEO ของคุณโดดเด่นกว่าใคร ซึ่งเครื่องมือจะติดตามเลยว่าคู่เเข่งของคุณมีอัตราการกล่าวถึงในแพลตฟอร์มต่าง ๆ มากน้อยเพียงใด มีการจัดอันดับคีย์เวิร์ดใหม่หรือไม่ ซึ่งเครื่องมือนี้จะรวบรวมข้อมูลติดตามเว็บไซต์คู่แข่งขันให้กับคุณ

SE Ranking
SE Ranking เป็นเครื่องมือติดตามอันดับเเละคุณภาพของเว็บไซต์ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์เจ๋ง ๆ หลายอย่าง เช่น การให้คำเเนะนำเกี่ยวกับคีย์เวิร์ด และการตรวจสอบเว็บไซต์

Search Latte
เครื่องมือ Search Latte ใช้สำหรับผู้ที่ต้องการดูผลการค้นหาของ Google.co.uk, Google.de หรือ Search Engine ต่าง ๆ มากกว่า 150 รายการ เพียงแค่ป้อนคีย์เวิร์ดลงไปเท่านั้น คุณก็จะเห็นผลการค้นหาของประเทศนั้น ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้พรอกซี หรือ VPN

SEO Rank Monitor
SEO Rank Monitor เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการติดตามคีย์เวิร์ดของคุณเพื่อเทียบกับคู่แข่ง นอกจากนั้นยังมีการติดตามตรวจอันดับบนแพลตฟอร์มออนไลน์อื่น ๆ อาทิ YouTube เป็นต้น

SERPFox
เครื่องมือ SERPFox เป็นเครื่องมือติดตามอันดับเว็บไซต์ที่ใช้งานได้ไม่ยุ่งยาก ใช้ได้จริง และมีความคุ้มค่ามาก

SERPs.com
เครื่องมือ SERPs.com เป็นเครื่องมือที่ใช้ติดตามอันดับระดับองค์กรพร้อมกับมีเครื่องมือสำหรับการค้นหาคีย์เวิร์ด ซึ่งมีฟีเจอร์เด็ดคือ “Test” ใช้สำหรับทดสอบว่าการทำ SEO บนเพจส่งผลต่ออันดับของคุณหรือไม่

SERPWoo
สำหรับ SERPWoo เป็นเครื่องมือติดตามอันดับเว็บไซต์เชิงลึก ที่ไม่เพียงแสดงให้คุณเห็นว่าหน้าใดของเว็บอยู่ในอันดับใด แต่ยังมีผลแสดงการเปลื่ยนแปลงอันดับเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งมีฟีเจอร์ที่โดดเด่นใช้ในการแสดงความผันผวน โดยจะบอกคุณได้ว่า SERP นั้นมีความสเถียรหรือไม่

Sistrix
Sistrix เป็นเเพลตฟอร์มสำหรับ SEO ระดับองค์กรที่มีการแสดงอันดับเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งสามารถใช้ในการติดตามการจัดอันดับเว็บไซต์ โดยเครื่องมือนี้จะใช้วิเคราะห์คีย์เวิร์ดว่าควรใช้คำใด พร้อมทั้งแสดงบริบทของคีย์เวิร์ดในรูปแบบการใช้ในประโยคได้อีกด้วย

WebCEO
สำหรับ WebCEO เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์ม SEO ระดับโลกที่ให้คุณสามารถเข้าถึงเครื่องมือที่มีคุณภาพมากมายที่ใช้สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพภายในเว็บไซต์ของคุณ ซึ่ง WebCEO สามาถใช้ในการค้นหาคีย์เวิร์ด, การตรวจและปรับปรุงเทคนิคทาง SEO, การติดตามอันดับเว็บไซต์ รวมไปถึงการปรับให้เว็บไซต์มีการแสดงผลที่เหมาะสมกับโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น
เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพคอนเทนต์ภายในเว็บไซต์

Animalz Revive
เครื่องมือใหม่ล่าสุด Animalz Revive ที่จะใช้สสำหรับการสแกนในส่วนของ Google Analytic Account เพื่อหาหน้าเว็บที่มี “organic decay” ซึ่งคุณจะสามารถอัปเดตเนื้อหาในหน้าเหล่านั้นได้ เพื่อให้เนื้อหาคอนเทนต์ดีมากขึ้นกว่าเดิม

BuzzSumo
สำหรับเครื่องมือ BuzzSumo เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในตอนนี้ เครื่องมือสำคัญที่ควรจ้องใช้ ซึ่งจะมีฟีเจอร์เด็ดคือ “View Shares” ฟีเจอร์นี้จะทำให้คุณมองเห็นว่ามมีใครที่แชร์เนื้อหาของคุณบน Twitter บ้าง พร้อมยังมีฟังห์ชั่น BuzzSumo Aleart ที่จะแจ้งเตือนคีย์เวิร์ดใหม่ ๆ ที่กำลังถูกกล่าวถึงในโลกออนไลน์

Can I Rank
เครื่องมือ Can I Rank เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่สามารถตอบคำถามคุณได้ว่า “เว็บไซต์ของคุณสามารถจัดอันดับได้หรือไม่” โดยเครื่องมือนี้จะใช้เพื่อเปรียบเทียบกับเว็บไซต์อื่น ๆ ในการจัดอันดับหน้าแรกบน Google

ClickFlow
เครื่องมือ ClickFlow ใช้ในการแสดงหน้าเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งจะเป็นหน้าเว็บที่มีศักยภาพสูงสุดในเว็บไซตฺ โดยจะประเมินจากอัตราการเข้าชม และรายได้ ไม่เพียงเท่าน้นยังสามารถใช้ทดสอบเพื่อดูว่าหน้าเว็บเพขใดที่ทำงานได้ดีที่สุด

Google SERP Preview Tool
เครื่องมือ Google SERP Preview มีฟังก์ชันที่สามารถใช้แสดงตัวอย่างว่าเว็บไซต์ของคุณจะปรากฏในผลการค้นหาของ Google ได้อย่างไร

Keys4Up
การเพิ่ม LSI คีย์เวิร์ดในเนื้อหาของคุณสามารถช่วยเพิ่มอันดับเว็บไซตืได้ เเต่จะทราบได้อย่างไรว่า LSI คีย์เวิร์ดใดที่ควรเพิ่ม ดังนั้นเครื่องมือฟรีอย่าง Keys4Up จะเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับคุณ เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่สามารถแนะนำคีย์เวิร์ดให้กับคุณได้

LSIGraph
สำหรับ LSIGraph เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำหรับการสร้าง LSI (Latent Semantic Indexing) คีย์เวิร์ด ให้กับคุณเพื่อเพิ่มคุณภาพของเนื้อหาให้ดีมากยิ่งขึ้น

MarketMuse
เครื่องมือ MarketMuse เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการตรวจสอบเนื้อหา และเปรียบเทียบเนื้อหาที่คล้ายคลึงกันระหว่างเว็บไซต์ของคุณ และคู่แข่ง ซึ่งจะทำให้ทราบว่าเนื้อหาใดที่ยังไม่มีในเว็บคู่แข่ง ตัวอย่างเช่น หากเว็บไซต์ของคุณมีเนื้อหาเกี่ยวกับสูตรของหวานที่มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตต่ำ ทาง MarketMuse จะตรวจสอบเนื้อหาในเว็บคู่แข่งว่ามีเนื้อหาที่คล้ายคลึงกันหรือไม่ เพื่อหลีกเลี่ยงการเขียนซ้ำ

MetaTags.io
เครื่องมือ MetaTags.io จะช่วยดูเนื้อหาภายในเว็บไซต์ของคุณว่าจะมีลักษณะอย่างไรในการแสดงผลการค้นหาบน Google ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถตรวจเช็คลักษณะการแสดงผลของเว็บไซต์เมื่อถูกแชร์ไปยังโลกออกไลน์ เช่น Twitter, Facebook และ LinkedIn เป็นต้น

nTopic
เครื่องมือ nTopic จะมีฟังก์ชัน “content relevancy” ซึ่งจะเป็นการตรวจสอบความเกี่ยวข้องของเนื้อหา โดยจะทำการแสกนเนื้อหาของคุณในเว็บไซต์ และให้คำแนะนำสำหรับการปรับปรุงด้าน SEO ให้เนื้อหามีคุณภาพมากขึ้น และยังมีปลั๊กอิน WordPress ที่เป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์และอัปเดตเนื้อหาคุฯอย่างรวดเร็วอีกด้วย

Ryte
สำหรับ Ryte เป็นเครื่องมือทางด้านเทคนิค On-Page SEO ซึ่งมีฟีเจอร์เด็ดคือการวิเคราะห์ TD*IDF TD*IDF โดยจะสามารถระบุคีย์เวิร์ดที่มีการจัดอันดับหน้าเพจ เเละเป็นคีย์เวิร์ดเป้าหมายของเว็บไซต์คุณ ซึ่งคีย์เวิร์ดเหล่านี้ เป็น LSI คีย์เวิร์ดที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำ On-Page SEO ได้

Schema App
สำหรับ Schema App จะใช้ในการเพิ่ม Schema markup ลงในเว็บไซต์ของคุณ เพื่อตรวจสอบได้ว่าการเพิ่ม Schema markup นั้น มีการตั้งค่าที่ถูกต้องหรือไม่

SEO Plugin By Squirrly
สำหรับ SEO Plugin By Squirrly เป็นปลั๊กอินที่ใช้ในการวิเคราะห์เนื้อหาได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งจะตรวจสอบว่าเนื้อหานั้นถูกต้องตามหลักของ SEo หรือไม่ เเละยังมาพร้อมกับเครื่อมือในการหาคีย์เวิร์ดที่ดี และเหมาะสมกับเว็บไซต์ของคุณ ทั้งยังสามารถแสดงให้เห็นว่าคีย์เวิร์ดเหล่านั้นมีความนิยมมากน้อยเพียงใด และยังแสดงข้อมูลปริมาณการค้นหาคีย์เวิร์ดในช่วงเวลาที่ผ่านมา

SEOptimer
สำหรับ SEOptimer ใช้ในการตรวจสอบ SEO ของเนื้อหาบนหน้าเว็บเพจ ซึ่งจะวิเคราะห์หน้าเว็บได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งแจ้งให้คุณทราบว่ามีปัญหาใดบ้างที่ต้องได้รับการแก้ไข เพื่อให้เว็บไซต์สามารถติดอันดับหน้าแรกได้

Solo SEO
สำหรับเครื่องมือ Solo SEO ใช้ในการตรวจสอบเว็บไซต์ที่มีประโยชน์และคุ้มค่ามาก ๆ ซึ่งตะทำการค้นหาคีย์หลัก และการทำ On-Page SEO รวมทั้งวิเคราะห์เนื้อหาอีกด้วย

Structured Data Markup Helper
สำหรับเครื่องมือ Structured Data Markup Helper เป็นเครื่องมือฟรีของ Google ที่ใช้สำหรับสร้าง Schema markup ที่เหมาะสมได้อย่างรวดเร็ว และไม่ยุ่งยาก

Text Tools
สำหรับ Text Tools เป็นเครื่องมือค้นหา LSI คีย์เวิร์ดขั้นสูง โดยจะตรวจสอบผลลัพธ์จาก 10 อันดับแรก และแสดงให้คุณเห็นว่าคีย์เวิร์ดที่ยอดนิยมคือคำไหน นอกจากนั้นยังสามารถเปรียบเทียบเนื้อหาของคุณกับเนื้อหา 10 อันดับแรกที่ติดอันดับบนหน้า Google เพื่อค้นหา LSI คีย์เวิร์ดที่ในเนื้อหาของคุณขาดหายไป

TrendSpottr
สำหรับเครื่องมือ https://trendspottr.com/welcomeTrendSpottr จะมีการแสดงเนื้อหาที่กำลังเป็นกระแสบน Twitter ดังนั้นหากคุณต้องการทำเนื้อหาคอนเทนต์ที่กำลังฮิต เป็นประเด็นร้อน ต้องใช้เครื่องมือเข้าช่วย

WordLift
เครื่องมือ WordLift ช่วยให้คุณสามารถระบุเอนทิตี้ที่เกี่ยวกับเนื้อหาของคุณ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่อาจใช้งานยากนิดหน่อย
เครื่องมือในการวิเคราะห์ Backlink
Ahrefs
สำหรับ Ahref จะมีดัชนีที่ได้รับการอัปเดตอย่างสม่ำเสมอเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้เหมาะสำหรับการวิเคราะห์ Backlink และเมื่อเทียบกับเครื่องมือสร้าง Backlink อื่น ๆ พบว่าเครื่่องมือนี้ใช้งานง่ายที่สุด

cognitiveSEO
สำหรับ cognitiveSEO เป็นชุดเครื่องมือที่เน้นการวิเคราะห์ลิงก์ และยังมีฟังก์ชันใในการตรวจสอบลิงก์ที่ไม่เป็นธรรมชาติ รวมทั้งสามารถระบุ Backlink ที่มีความเสี่ยงที่อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการลงโทษจากทาง Google

Kerboo
สำหรับ Kerboo เป็นชุดเครื่องมือ SEO ที่เหมาะสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดผ่านเครื่องมือค้นหารวมถึงการวิเคราะห์ Backlink รวมทั้งยังมีฟีเจอร์เด็ดอย่าง “LinkRisk” ซึ่งสามารถใช้วิเคราะห์โปรไฟล์ของลิงก์ และสามารถระบุได้ว่า Backlink ใดที่เป็นสแปม

Link Research Tools
เครื่องมือ Link Research เป็นเครื่องมือสำหรับการวิเคราะห์ลิงก์ที่มีคุณภาพสูง พร้อมการวิเคราะห์ Link Building เครื่องมือนี้มีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมก็คือ “Link Detox” ที่ช่วยตรวจสอบ Backlink โดยอัตโนมัติ และแสดงให้เห็นว่าลิงก์ใดที่ทำให้คุณเสี่ยงจ่อการถูกลงโทษจาก Google หรือทำให้ถูกลงโทษเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งพูดง่าย ๆ ว่าเป็นเครื่องมือที่สามารถระบุลิงก์ที่เป็นสแปมได้

Majestic SEO
Majestic SEO เป็นเครื่องมือที่สามารถวิเคราะห์ลิงก์ที่อยู่ในอันดับต้น ๆ ซึ่งมีฟังก์ชันที่โดดเด่นอย่าง “TrustFlow” และ “CitationFlow” โดยจะบอกคุณได้ว่าลิงก์เหล่านั้นน่าเชื่อถือ หรือเป็นลิงก์สปม และยังมีอีกฟีเจอร์หนึ่งที่น่าสนใจมากอย่าง “Clique Hunter” ซึ่งจะสามารถให้คุณพบ Backlink ที่มีคุณภาพสูงจากเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับเว็บของคุณ

Monitor Backlinks
เครื่องมือ Monitor Backlinks เป็นเครื่องมือที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ Backlink ที่ได้มาใหม่ การจัดอันดับคีย์เวิรฺ์ด และการตรวจสอบความเร็วเว็บไซต์ ซึ่งเครื่องมือนี้จะส่งการแจ้งเตือนเมื่อเว็บไซต์คู่แข่งของคุณได้รับลิงก์ใหม่

Moz Pro
Moz Pro เป็นชุดซอฟต์แวร์ที่มีเครื่องมือคุณภาพสูงสำหรับการวิเคราะห์ลิงกฺ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของหน้าเพจ ซึ่งมีฟีเจอร์เด็ดอย่าง “Keyword Explorer” ของ Moz เป็นหนึ่งในเครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ดที่ดีที่สุด โดยจะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งเกี่ยวกับลักษณะของ SERP ที่ปรากฏในผลการค้นหาสำหรับคีย์เวิร์ดที่กำหนด

MozBar
Moz Bar เป็นแถบเครื่องมือที่ดีสำหรับ Chrome และ Firefox ที่แสดงให้คุณเห็นในส่วนของ Page Authority และ Domain Authority ของเพจ ไม่เพียงเท่านั้นยังแสดงให้เห็น DA/PA ของผลการค้นหาจาก Google ให้คุณทราบอีกด้วย ซึ่งเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมมากในการเพิ่มอัตราการแข่งขันให้เว็บไซต์ติดหน้าแรก

Open Link Profiler
สำหรับเครื่องมือ Open Link Profiler ในเวอร์ชันที่ต้องชำระเงิน จะมีฟีเจอร์เด็ด ๆ เช่น การวิเคราะหฺ และตรวจสอบหน้าเว็บเพจ แต่อย่างไรก็ตามเวอร์ชันฟรีก็สามารถใช้ได้ ซึ่งสามารถใช้ในการวิเคราะห์ Backlink

SEO PowerSuite
สำหรับ SEO PowerSuit เป็นชุดเครื่องมือ SEO บนเดสก์ท็อปที่มีคุณภาพ รวมถึงการตรวจสอบอันดับ และยังสามารถวิเคราะห์ Backlink ได้

SEO Tools for Excel
สำหรับ SEO Tools for Excel เป็นเครื่องมือ SEO ที่ใช้ใน excel ได้ดีที่สุด สามารถตรวจสอบ Backlink ของเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดายโดยใช้งานร่วมกับ Ahrefs หรือ Majestic API

SEO Weather’s Bulk Metrics Checker
สำหรับเครื่องมือ SEO Weather’s Bulk Metrics Checker ใช้สำหรับผู้ที่ต้องการตรวจเช็ค PA และ DA สำหรับราย URL ที่มีขนาดใหญ่ โดยจะแสดงรายการผลลัพธ์ลงใน Bulk Metric Checker เเละกด go fresh หลังจากนั้นคุณจะได้รับข้อมูลที่ต้องการทราบ

SEOGadget for Excel
ถ้าหากคุณต้องการดึงข้อมูลจาก Moz และ Majestic ลงในสเปรดชีตของ Excel สามารถใช้เครื่องมือ SEOGadget for Excel จะทำให้การทำงานง่ายขึ้นหลายเท่า

URL Profiler
หากคุณต้องการจะตรวจสอบข้อมูลในการรายงาน URL จำนวนมาก เช่น Domain Aithority, จำนวนของ Backlink และอัตราการแชร์เว็บไซต์บนเเพลตฟอร์มออนไลน์ สามารถใช้เครื่องมือ URL Profier นี้ได้เลย

WebMeUp Backlink Tool
สำหรับ WebMeUp เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ Backlink ที่มีคุณภาพ รวมทั้งสามารถบอกดัชนีของ Backlink จำนวนมากได้
เครื่องมือสำหรับทำ Video SEO

Morningfame
สำหรับ Morningfame เป็นเครื่องมือที่ให้ข้อมูลเชิงลึกซึ่งนำไปใช้ได้จริงในช่อง Youtube ของคุณ โดยมีฟีเจอร์เด็ดอย่าง “Growth Opportunity” ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่สามารถบอกคุณได้ว่าวีดีโอไหนในช่องของคุณมีประสิทธิภาพสูงที่สุด และวีดีโอใดที่ได้รับความนิยม

Social Blade
วิธีที่ยอดเยี่ยมในการสอดส่องคู่แข่งในแพลตฟอร์ม Youtume ของคุณ ซึ่งเครื่องมือ Social Blade จะทำให้คุณสามารถดูยอดดูประจำรายเดือน เเละตรวจสอบรายได้ของช่องได้ทั้งหมด ซึ่งจะเป็นการแสดงผลขอมูลต่าง ๆ บนหน้าจอเดียวเท่านั้น

TubeBuddy
เครื่องมือ TubeBuddy เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มากสำหรับช่อง Youtube ของคุณ ซึ่งฟีเจอร์เด็ดจะมีการแจ้งเตือนที่ช่วยให้คุณรู้ว่าผู้คนกำลังพูดถึงคุณที่ใดบน Youtube ซึ่งจะมีฟังก์ชัน “brand monitoring” ที่ใช้ในการวิเคราะห์แบรนด์ต่าง ๆ บน Youtube

VidlQ
เครื่องมือ VidiQ เป็นชุดซอฟต์แวร์สำหรับการทำ SEO บนวีดีโอระดับมืออาชีพ เเละยังมีฟังก์ชันสำหรับการค้นหาคีย์เวิร์ดที่น่าสนใจ การวิเคราะห์และเพิ่มประสิทธิภาพของวีดีโอ ความโดดเด่นของเครื่องมือนี้คือคุณจะสามารถบูสต์วีดีโอให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และเพื่อรับคำแนะนำการใช้คีย์เวิร์ดที่ยอดเยี่ยมในการตั้งชื่อ การเขียนคำอธิบ่น และการสร้างแท็กของวีดีโอ

YTCockpit
สำหรับเครื่องมือ YTCockpit เป็นหนึ่งในไม่กี่เครื่องมือที่มีไว้สำหรับการตรวจสอบ และค้นหาคีย์เวิร์ดของวีดีโอที่มีประสิทธิภาพสูงมาก ไม่เพียงแค่การแนะนำคีย์เวิร์ดเท่านั้น เครื่องมือนี้สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดอันดับวีดีโอบนหน้าแรกของ Youtube ได้อีกด้วย
เครื่องมือสำหรับสร้าง Link Building

AuthoritySpy
เครื่องมือ AuthoritySpy ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณสามารถค้นหาผู้ที่มีอิทธิพลสูงสุดในพื้นที่ของคุณ โดยการค้นหาในสถานที่ต่าง ๆ เช่น AllTop, Twitter และ Flowerwonk

Buzzstream
หากคุณต้องการที่จะทำงานร่วมกับทีมของคุณ ต้องมีเครื่องมือดี ๆ อย่าง Buzzstream ที่ทำให้การทำงานสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้การสร้างลิงก์เป็นเรื่องที่ง่าย และเครื่องมือนี้ยังใช้ในการค้รหาผู้ที่มีอิทธิพลต่อผู้บริโภคที่เหมาะสมกับสินค้าของคุณ ทำให้สินค้าเป็นที่รู้จัก และได้รับความสนใจ

Check My Links
หากคุณกำลังทำ Broken Link Building หรือ The Moving Man Method จะต้องใช้เครื่องมืออย่าง Check My Links ด้วยการคลิกเพียงแค่ปุ่มเดียวเท่านั้นในส่วนชยายของ Chrome เครื่องมือนี้จะทำการเข้าตรวจสอบหน้าเว็บต่าง ๆ อย่างรวดเร็วเพื่อค้นหาลิงก์เสีน

Citation Lab’s Broken Link Finder
เครื่องมือ Citation Lab’s Broken Link Finder จะช่วยให้คุณประหยัดเวลามากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องค้นหาลิงก์เสียทีละหน้า ซึ่งเครื่องมือนี้สามารถใช้ตรวจลิงก์เสียหลาย ๆ หน้าเว็บเพจได้พร้อม ๆ กัน

Citation Labs Link Prospector
เครื่องมือ Link Prospector ใช้สำหรับการสแกนเว็บไซต์เพื่อหาโอกาสในการสร้าง Link Building ซึ่งจะเข้าตรวจสอบที่หน้า resource page, guest post, บล็อก, ไซต์ข่าว และอื่น ๆ

DIBZ
สำหรับ DIBZ เป็นเครื่องมือในการหาลิงก์ที่ยอดเยี่ยมมาก เพียงแค่ป้อนประเภทของลิงก์ลงไป จากนั้นระบบจะทำงานเพื่อค้นหา Backlink ที่น่าสนใจให้กับคุณ

disavow.it
Disavow.it เป็นเครื่องมือที่สามารถเปลี่ยนรายการ URL ที่เป็นสแปมให้กลายเป็นไฟล์ Google-ready disavow ที่ดีต่อเว็บไซต์ของคุณ

Domain Hunter Plus
สำหรับการทำงานของ Domain Hunter Plus ค่อนข้างจะคล้ายกับเครื่องมือ Check My Links เเต่เครื่องมือนี้มีความโดดเด่นกว่าในการตรวจสอบเพื่อเช็คดูว่าโดเมนของลิกง์ที่ใช้งานไม่ได้นั้นพร้อมสำหรับการลงทะเบียนหรือไม่ และช่วยในการตรวจสอบลิงก์เสีย

Free Broken Link Checker
เครื่องมือ Free Broken Link Checker เป็นเครื่องที่ใช้ตรวจสอบเว็บไซต์เพื่อหาลิงก์เสีย เพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น

GroupHigh
เครื่องมือ GroupHigh เป็นซอฟต์แวร์ขั้นสูงของเหล่าบล็อกเกอร์ การใช้งานง่ายเพียงแค่ป้อนคีย์เวิร์ดลงไปเพื่อค้นหาบล็อกที่อยู่ในแวดวงของคุณ จากนั้นระบบจะทำการกรอง Domain Authority และวันที่โพสต์ล่าสุด เพื่อค้นหารายชื่อบล็อกเกอร์ที่คุณควรติดตามพวกเขา

HARO (Help a Reporter Out)
คุณต้องการรับ Backlinks จาก The New York Times และ The Wall Street Journak หรือไม่ หากคุณต้องการสามารถใช้ HARO เป็นตัวช่วยได้ เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่จะเชื่อมโยงนักข่าว และแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ ในการโปรโมทเว็บไซต์ของคุณได้ ซึ่งแหล่งข่าวเหล่านี้จะทำการกล่าวถึงเว็บไซต์ของคุณผ่านลิงก์ในแพลตฟอร์มของพวกเขา ส่งผลให้มีอัตราการคลิกเข้าเยี่ยมชมเว็บสูงขึ้นจากลิงกืเชื่อมโยง

JustReachOut
หากคุณต้องการรับลิงก์จากเว็บไซต์ข่าวอย่างเช่น New York Times และ WSJ หรือไม่ ขั้นตอนแรกคือการหานักข่าวที่เหมาะสมเพื่อติดต่อ เเละทาง JustReachOut จะช่วยทำให้กระบวนการนี้ง่ายมากขึ้น เพียงแค่คุณค้นหาคีย์เวิร์ดหลักลงไป เครื่อมือจะจัดการสร้างรายชื่อนนักข่าวที่เกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดที่คุณสนใจ เครื่องมือนี้ยังช่วยให้คุณประหยัดเวลาไม่ต้องค้นหาลิงก์เสียทีละหน้าเพจ เเต่จะไปเพิ่มโอกาสในการสร้างลิงก์ที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของคุณโดยเฉพาะ

Linkody
สำหรับเครื่องมือ Linkody เป็นเครื่องมือที่จะแจ้งให้คุณทราบเมือได้รับ Backlinks หรือพวกลิงก์เสียต่าง ๆ ทั้งยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับ backlinks ใหม่ ๆ และไม่เพียงเท่านั้น Linkody จะส่งอีเมลถึงคุณเมื่อเว็บไซต์คู่แข่งของคุณได้รับ Backlinks ใหม่ ๆ ซึ่งคุณจะสามารถนำลิงก์เหล่านั้นมาเชื่อมโยงภายในเว็บไซต์ของคุณได้

Linkstant
สำหรับ Linkstant จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยแจ้งเตือนทางอีเมลทุกครั้งเมื่อคุณได้รับลิงก์ใหม่ ๆ ซึ่งคุณสามารถเปลี่ยนลิงก์เพียงแค่หนึ่งลิงก์ให้กลายเป็นหลาย ๆ ลิงก์ได้ ซึ่งใช้ในการสร้างลิงก์ที่มีคุณภาพสูงภายในเว็บไซต์ของคุณ

MailShake
MailShake เป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมมาก ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่การเผยเเพร่ทางอีเมล ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้งานมากกว่า 47,000 ราย เครื่องมือนี้จะช่วยสร้างลิงก์ที่ดี และโปรโมทเนื้อหาให้กับคุณ

Marie Haynes’ Disavow Blacklist
หากคุณกำลังสงสัยว่าลิงก์ในเว็บไซต์เป็นตัวช่วยในการทำ SEO ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หรือลดลง จะต้องใช้เครื่องมือ Marie Haynes’s Disavow Blacklist เพียงแค่คุณอัปโหลด URL ของเว็บลงไปเครื่องมือนี้จะแจ้งใหเคุณทราบว่าลิงก์ไหนที่เปฌรลิงก์สแปบ

Muck Rack
หากคุณต้องการให้เว็บไซต์ได้รับการกล่าวถึงจากเว็บไซต์ข่าวที่น่าเชื่อถืออย่าง The New York และ Forbes คุณควรจะใช้เครื่องมือ Muck Rack ซึ่งจะช่วยประชาสัมพันธ์ โปรโมทเว็บไซต์ของคุณ เเละยังช่วยค้นหานักข่าวที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งมีฟีเจอร์หลักอย่าง “Journalist Directory” ที่แสดงให้เห็นรายชื่อนักข่าวที่มีคุณภาพจากสื่อมากว่า 500 แห่งอีกด้วย

Ninja Outreach
สำหรับ Ninja Outreach เป็นเครื่องมือเผยแพร่บล็อกเกอร์ตัวใหม่ที่น่าประทับใจมาก ช่วยในการค้นหาผู้มีอิทธิพล หรือเหล่า Influencers ที่อยู่ในแวดวงเดียวกับเว็บไซต์ของคุณ

Ontolo
เครื่องมือ Ontolo เหมาะสำหรัยใช้ในการสร้าง Link Building มาก ๆ เพียงแค่คุณป้อนคีย์เวิร์ดลงไปสองสามคำ เครื่องมือนี้ก็จะสามารถแสดงลิงก์ที่คุณต้องการให้ทันที

OutreachPlus
เครื่องมือ OutreachPlus ใช้ในการเผยแพร่ทางอีเมล ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้การเผยเเพร่เว็บไซต์ของคุณเป็นไปแบบอัตโนมัติ และมีการติดตามการเผยแพร่ของคุณ ซึ่งเครื่องมือที่ออกแบบมาสำหรับการสร้างลิงก์ที่มีคุณภาพสูง เหมาะสำหรับการเผยแพร่ไปยังแหล่งอื่น ๆ

PitchBox
เครื่องมือ PitcBox เรียกได้ว่าเป็นเครื่องมือค้นหา และเผยแพร่ลิงก์แบบครบวงจร ใช้งานง่าย ช่วยในการสแกนเว็บไซต์เพื่อหาบุคคลที่จะเข้ามาโปรโมทเว็บไซต์ของคุณ

Remove’em
เครื่องมือ Remove’em ใช้ในการลบลิงก์ระดับมืออาชีพ ซึ่งจะลบลิงก์ที่เป็น “Unnatural Links” ที่อาจจะทำให้เว็บไซต์ได้รับบทลงโทษจาก Google ได้ ซึ่งเครื่องมือจะมีฟีเจอร์เด็ด “R-Score” ที่จะประเมิน Backlinks ทั้งหมดของคุณ เพื่อแจ้งให้ทราบว่าลิงก์ไหนที่เป็นอันตรายควรลบทิ้ง

Rmoov
สำหรับเครื่องมือ Rmoov เป็นหนึ่งเครื่องมือลบลิงก์ที่ดีที่สุดที่เคยมีมา ซึ่งมาพร้อมกับคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์มาก ๆ โดยเครื่องมือนี้สามารถลบลิงก์เสียได้เองโดยอัตโนมัติ

ScrapeBox
สำหรับ ScrapeBox เป็น “Swiss Army Knife of SEO” ซึ่งทางเครื่องมือประกาศตัวอย่างชัดเจนว่าสร้างมาเพื่อการทำ Black hat SEO แต่อย่างไรก็ตามคุณสามารถใช้เครื่องมือในการสร้างลิงก์สำหรับการทำ White hat SEO เช่นเดียวกัน โดยใข้ในการค้นหาลิงก์ การค้นหาการติดต่อ และการค้นหาคีย์เวิร์ด

Siega Media Embed Code Generator
สำหรับ Siega Media Embed Code Generator เป็นเครื่องมือสำหรับการสร้างโค้ดฝังในอินโฟกราฟิก ซึ่งสามารถใช้ในการระบุ Code Box ได้อีกด้วย
สรุป
เครื่องมือเหล่านี้ เป็นเครื่องมือสำหรับกลยุทธ์เทคนิค SEO ที่จะช่วยให้การทำงานของคุณนั้นสะดวกและง่ายขึ้น พร้อมช่วยปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ถูกต้องตามหลักของ SEO ทั้งยังช่วยให้เว็บไซต์ของคุณได้รับการโปรโมท เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากยิ่งขึ้น แนะนำเลยว่าหากใครที่กำลังทำ SEO บนเว็บไซต์ จะต้องทดลองใช้เครื่องมือเหล่านี้ เพื่อทำให้การทำ SEO ประสบความสำเร็จสูงสุด และส่งผลดีต่อเว็บไซต์