Long-tail Keywords คืออะไร มีความสำคัญอย่างไรต่อการทำ SEO 

Long-tail Keywords คืออะไร พูดง่าย ๆ ได้ว่าเป็นกลุ่มคำ หรือวลีที่มีมากกว่าสองคำขึ้นไป ซึ่งเป็นคำเฉพาะที่เจาะจงถึงเนื้อหาคอนเทนต์ แบรนด์ การบริการ หรือสิ่งที่คุณต้องการจะสื่อให้กับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งได้มีหลายคนกล่าวว่าคีย์เวิร์ดคำยาว ๆ นี้ จะง่ายต่อการจัดอันดับ แต่ความจริงแล้วขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยคีย์เวิร์ดในรูปแบบคำยาว ๆ นี้ มีอยู่สองประเภทที่แตกต่างกัน 

ดังนั้นในบทความนี้ จะพามาเรียนรู้ความแตกต่างระหว่าง Long-tail keywords ทั้งสองประเภทนี้ว่ามีจุดไหนที่ไม่เหมือนกัน พร้อมเรียนรู้วิธีการค้นหาคีย์เวิร์ดเหล่านี้

เนื้อหาภายในบทความ

Long-tail Keywords คืออะไร

เป็นคีย์เวิร์ดที่มีจำนวนคำมากกว่าสองคำขึ้นไป สามารถเป็นได้ทั้งวลี หรือประโยคสั้น ๆ ซึ่งจะมีปริมาณการค้นหาน้อยในแต่ละเดือน เเละมีค่าของอัตราการแปลง (Conversion rate) ที่สูงกว่าคีย์เวิร์ดทั่วไป

ตัวอย่างเช่น 

คีย์เวิร์ดหลักคือ “สมาธิ” เป็นคำสั้น ๆ ที่ได้รับปริมาณการค้นหาอยู่ที่ 211,000 ครั้งต่อเดือน ส่วนคีย์เวิร์ดแบบยาว เช่น “การทำสมาธิทำให้คุณฉลาดขึ้นได้” พบว่ามีปริมาณการค้นหาเพียงแค่ 50 ครั้งต่อเดือนเท่านั้น

meditation-head-and-long-tail Keyword

ทำไมต้องเรียกว่า Long-tail Keywords

ชื่อนี้รู้ไหมว่าได้มาจากไหน ซึ่งได้มาจากตำแหน่งบนเส้นโค้งของกราฟอุปสงค์ในการค้นหา (Search demand) ซึ่งกราฟจะมีเเกน X เป็นประเภทของคีย์เวิร์ด และแกน Y เป็นปริมาณการค้นหา

The search demand curve

ที่ “Head” หรือส่วนหัวของเส้นโค้ง จะมีคีย์เวิร์ดสั้น ๆ ที่มีปริมาณการค้นหามาก แต่ในขณะที่ส่วนท้ายของกราฟ “tail” ที่แสดงข้อมูลปริมาณการค้นหาของคีย์เวิร์ดแบบยาว ๆ พบว่ามีปริมาณการค้นหาที่ต่ำ เมื่อเทียบกับคำสั้น ๆ 

ในบานข้อมูลของ Ahrefs’ U.S. database พบว่ามีคีย์เวิร์ดเพียง 31,000 คำเท่านั้นที่มีปริมาณการค้นหามากกว่า 100,000 ครั้งต่อเดือน และในทางกลับกันมีคีย์เวิร์ดจำนวน 3.8 พันล้านคำ ที่มีปริมาณการค้นหาน้อยกว่า 10 ครั้งต่อเดือน เป็นตัวเลขที่น่าทึ้งมาก ๆ 

ต่อไปนี้เป็นข้อมูลแสดงปริมาณการค้นหาคีย์เวิร์ดจากฐานคลังข้อมูลของ Ahrefs’ U.S. database โดยแสดงค่าเป็นร้อยละในเเผนภูมิวงกลม

Search Volume Distribution of 4 Billion Keywords

จากข้อมูลจะเห็นได้ว่าคีย์เวิร์ดที่มีปริมาณการค้นหาต่ำกว่า 10 ครั้งต่อเดือนคิดเป็นร้อยละ 95 ของฐานข้อมูลคีย์เวิร์ดในประเทศสหรัฐอเมริกา แม้ว่าจะเป็นตัวเลขที่สูงมาก แต่ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ เนื่องจากว่าประมาณร้อย 15 ของการค้นหาใน Google ในแต่ละวัน จะเป็นการค้นหาเรื่องใหม่ ๆ และอาจไม่เคยมีประวัติการค้นหามาก่อนหน้านี้เลย

“95% ของคีย์เวิร์ดในการค้นหาทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา ได้รับการค้นหาน้อยกว่า 10 ครั้งต่อเดือน!”

อย่างไรก็ตามปริมาณการค้นหาไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่าคำที่ถูกค้นหาที่น้อยกว่า 10 ครั้งต่อเดือน จะต้องเป็น Long-tail Keywords ทั้งหมด ซึ่งมันขึ้นอยู่กับความยาวของคีย์เวิร์ดนั่นเอง เเละที่สำคัญจากข้อมูลด้านล่างนี้จะเห็นได้ว่าคีย์เวิร์ดสั้น ๆ จำนวนมากที่ได้รับปริมาณการค้นหาน้อยกว่า 100 ครั้งต่อเดือน ส่วนคีย์เวิร์ดยาว ๆ ที่มีคำในประโยคมากกว่า 5 คำขึ้นไป พบว่ามีปริมาณการค้นหาหลายแสนครั้งต่อเดือนเลยทีเดียว

One word Vs five words keywords

ดังนั้นความยาวของคีย์เวิร์ดไม่ได้มีผลต่อปริมาณการค้นหาอย่างแน่นอน

Long-tail Keywords ใช้แล้วดียังไง เพราะอะไรถึงมีประสิทธิภาพในการจัดอันดับสูง

จะพามาดูเหตุผลสามประการที่คุณควรใช้ในการพิจารณาคีย์เวิร์ดประเภทนี้ ให้เป็นส่วนสำคัญของการปรับปรุงประสิทธิภาพของ SEO สำหรับเว็บไซตืให้ดีมากยิ่งขึ้น

เหตุผลที่ 1 เนื่องจากมีอัตราการแข่งขันน้อยกว่า

หากคุณกำลังเปิดตัวบล็อกใหม่ แนะนำว่าควรใช้ Long-tail Keywords ด้วย เนื่องจากพบว่าคีย์เวิร์ดยาว ๆ ค่อนข้างได้รับความนิยมในการค้นหาบนโลกอินเตอร์เน็ต มีปริมาณการค้นหาสูง เเละอาจเพิ่มอัตราการเข้าชมบล็อกของคุณได้ เช่นตัวอย่างบล็อกที่เขียนเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลด้านล่างนี้

Bitcoin popular Long-tail Keywords

ไม่น่าเชื่อเลยว่าคีย์เวิร์ดเหล่านี้จะมีปริมาณการค้นหาที่สูงมาก ๆ เเละส่งผลให้เว็บไซต์ของคุณมีอันดับที่ดีขึ้นได้

คีย์เวิร์ดที่เป็นประโยคหรือวลีทั้งหมดข้างต้นนี้ มีคะแนนความยาก (Keyword Difficult : KD) ที่ระดับสูง ซึ่งหมายความว่าการค้นหาบน Google อาจทำให้เกิดการประมวลผลการค้นหาที่ยากมากขึ้น

ต่อมาด้านล่างนี้เป็นคีย์เวิร์ดที่ได้รับความนิยมในการค้นหาน้อยกว่าสำหรับเรื่องสกุลเงินดิจิทัล

Long-tail keywords - Keyword difficult

อย่างที่คุณเห็นคีย์เวิร์ดที่ได้รับความนิยมน้อยเหล่านี้มีคะแนนความยาก (KD) ที่ต่ำมาก ถึงเเม้จะเป็นคีย์เวิร์ดคำยาว ซึ่งหมายความว่าหากมีคะเเนนความยากที่ต่ำนั่นแสดงว่าโอกาสในการติดอันดับผลการค้นหา 10 อันดับแรกบน Google จะเพิ่มสูงมากขึ้น นอกจากนั้นยังเป็นคีย์เวิร์ดที่มีอัตราการแข่งขันต่ำ มีผู้เยี่ยมชมจำนวนไม่มากนักที่ใช้คำเหล่านี้ในการค้นหาเพื่อเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์

เหตุผลที่ 2 Long-tail Keywords นั้นง่ายต่อการระบุคำตอบ

ก่อนอื่นเรามาทดลองเปรียบเทียบคีย์เวิร์ดที่แตกต่างกันสองชุดนี้กันเลยดีกว่า

“How to buy bitcoin” ดุเหมือนจะเป็นคีย์เวิรฺ์ดที่ใช้ในการหาคำตอบที่ตรงไปตรงมาได้ง่าย ๆ แต่ถ้าคุณสังเกตดูที่หน้าผลการค้นหาอันดับต้น ๆ จะพบว่าคำตอบที่ได้มีความยาวมากถึง 3,400 คำ ซึ่งคุณต้องอ่านข้อความจำนวนเยอะมากเพื่อหาคำตอบว่าซื้อยังไง

แต่ในทางกลับกันถ้าใช้คีย์เวิร์ดว่า “how to cash out large amounts of bitcoin” เป็นประโยคที่ยาวขึ้นมานิดหน่อยสำหรับการค้นหา คุณจะได้คำตอบที่เจาะจงมากขึ้น โดยที่ไม่จำเป็นตัองอ่านข้อความจำนวนมากเพื่อหาคำตอบ

ดังนั้นแนะนำว่าการค้นหาจะต้องระบุรายละเอียดให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้คุณได้คำตอบที่สั้นกระชับ อ่านเเล้วเข้าใจง่ายได้คำตอบตรงกับประเด็นที่สงสัย

นอกจากนั้นคุณยังสามารถค้นหากลุ่มคำที่ใกล้เคียงกันของ Long-tail Keywords ได้ เพื่อใช้ในการหาคำตอบจากเว็บไซต์หลาย ๆ เว็บที่มีเนื้อหาเดียวกัน

The best website builder keywords

ซึ่งจะช่วยแสดงเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกันมากถึง 80% และอีก 20% จะถูกปรับแต่งให้เหมาะสมสำหรับโปรไฟล์ผู้ค้นหาที่เข้าใช้งานในแต่ละราย

เหตุผลที่ 3 เป็นคีย์เวิร์ดที่มีจำนวนมาก

การใช้คีย์เวิรฺ์ดในรูปแบบวลี หรือประโยคนั้นเป็นคำที่ไม่ตายตัว และสามารถใช้ค้นหาข้อมูลได้อย่างหลากหลาย และจัดอยู่ในคีย์เวิร์ดที่มีปริมาณการค้นหาค่อนข้างมากอีกด้วย

ตัวอย่างเช่น หากคุณพิมพ์คำว่า “best website builder for __” ในเครื่องมือ Ahrefs’ Keywords Explorer จะปรากฏคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องมากกว่า 1,000 รายการให้คุณเห็นเลยทีเดียว

Matching terms best website builder

วิธีการหา Long-tail Keywords

มีหลายวิธีที่ใช้ในการค้น Long-tail Keywords ได้ ซึ่งมีจะมีวิธีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลย

วิธีที่ 1 ใช้ Google Autosuggest

ผู้เชี่ยวชาญ SEO บางคนแนะนำให้คุณหาคีย์เวิร์ด Long-tail จาก Google Autosuggest โดยป้อนคีย์เวิร์ดเป้าหมายตามด้วยตัวอักษรต่างๆ ดังเช่นตัวอย่างภาพด้านล่างนี้

Google Autosuggest - Long tail Keywords

โดยเครื่องมือนี้มีคุณลักษณะที่ออกแบบมาเพื่อให้สามารถเข้าถึงคีย์เวิร์ดยอดนิยมได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นหากตรวจสอบปริมาณการค้นหาคีย์เวิร์ดในภาพด้านบน คำค้นหาส่วนใหญ่จะมีจำนวนการค้นหาที่ค่อนข้างเหมาะสม

The popular keywords research

พูดง่าย ๆ ว่าเครื่องมือ Google Autosuggest นี้มีเเนวโน้มสูงมากในการแสดงคีย์เวิร์ดที่ได้รับความนิยมสูงให้กับคุณ ซึ่งก็ยังมีเครื่องมืออื่น ๆ ที่ทำงานได้ดีไม่เเพ้กัน เช่น Answer The Public หรือ Soovle โดยเครื่องมือเหล่านี้จะแนะนำคีย์เวิร์ดจำนวนมากให้กับคุณ ซึ่งล้วนเป็นคำที่นิยมและมีการแข่งขันสูง

วิธีที่ 2 ใช้เครื่องมือ Ahrefs’ Keywords Explorer

วิธีนี้แตกต่างจากวิธีก่อนหน้าตรงที่ไม่ต้องทำงานด้วยตนเอง เพราะเป็นระบบอัตโนมัติ เพียงแค่ป้อนคำค้นหาที่ต้องการ และใช้ตัวกรอง “Search volume” เพื่อดู Long-tail Keywords หลายพันรายการเเบบรวดเร็วทันใจ

Matching terms report-meditation keyword

หากเว็บไซต์ของคุณเป็นน้องใหม่ เเละยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก ขอแนะนำให้ใช้ตัวกรอง “Keyword difficult : KD” ซึ่งช่วยมห้คุณค้นหาคีย์เวิร์ดที่มีการแข่งข้นน้อยที่สุด นอกจากนี้อย่าลืมลองใช้ปุ่ม “Questions” ซึ่งจะช่วยแสดงข้อความเจ๋ง ๆ หรือคำถามเลิศ ๆ สำหรับใช้เป็น Long-tail Keywords ได้

Questions-tab

วิธีที่ 3 ดูว่าคู่แข่งของคุณกำลังจัดอันดับคีย์เวิร์ดใด

แหล่งที่มาของคีย์เวิร์ดยาว ๆ ยอดนิยมเหล่านี้สามารถตรวจเช็คได้จากคู่เเข่งขัน โดยใช้เครื่องมือ Ahrefs’ Site Explorer ที่จะช่วยให้คุณเห็นคำต่าง ๆ ที่คู่แข่งขันใช้ในการจัดอันดับ เพียงนำเว็บไซต์ที่เป็นคู่แข่งของคุณ ป้อนลิงก์ใน Site explorer เเละไปที่รายงาน Organic Keywords เพื่อดูว่าคีย์เวิร์ดไหนที่มีอัตราการคลิกเข้าชมสูง

Organic keywords report-mindful.org

นำลิงก์เว็บไซต์คู่แข่งขันอีก 5-10 เว็บไซต์ เพื่อจะได้ค้นพบคีย์เวิร์ดเลิศ ๆ ที่จะทำให้เว็บไซต์ของคุณเป็นที่นิยม เเละอันดับพุ่งสูงขึ้นได้

วิธีที่ 4 เรียกดู Reddit, Quora และ Niche forums

เมื่อคุณค้นหาข้อมูลบน Google แต่ไม่พบคำตอบที่ดีสำหรับคำถามที่คุณสงสัย ซึ่งคุณสามารถหาข้อมูลได้จากแหล่งอื่น ๆ เช่น Quora และ Reddit เป็นต้น

ตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับหัวข้อ “Marketing” ใน Quora ก็จะพบกับโพสต์นี้

Quora post - Marketing

การตรวจสอบอย่างรวดเร็วของเครื่องมือ keyword Explorer พบว่า “marketing manipulation” เป็น Long-tail Keywords ที่มีคะแนน KD ต่ำ

Overview market manipulation

ข้อดีของวิธีนี้คือเธรดในฟอรัมอาจมีการอภิปรายที่ดีมาก ซึ่งจะเป็นประโยชน์สำหรับสร้างเนื้อหาในหัวข้อนั้น แต่ก็มีข้อเสียเช่นกัน คือ การค้นหาคีย์เวิร์ด Long-tail จากฟอรัมเป็นวิธีการที่ค่อนข้างน่าเบื่อ และคุณยังต้องใช้เครื่องมือ SEO ที่หลากหลาย เช่น Keywords Explorer เพื่อตรวจสอบปริมาณการค้นหาและ KD ของแต่ละคีย์เวิร์ด

ซึ่งคีย์เวิร์ดเหล่านี้สามารถหาได้อย่างง่ายดายผ่านเครื่องมือฟรีอย่าง Keywords Explorer

Matching terms report marketing

ประเภทของ Long-tail Keywords

ประเภทของคีย์เวิร์ดนี้ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ “topical long-tail keywords” และ “supporting long-tail keywords” 

Supporting long-tail keywords

สำหรับคีย์เวิร์ดประเภทนี้ สามารถยกตัวอย่างได้เช่น “อาหารเพื่อสุขภาพที่ดีที่สุดสำหรับสุนัข” เป็น Long-tail Keyword อย่างแน่นอน เพราะมีคำค่อนข้างยาว และมีผลรับการค้นหาเพียง 100 ครั้งต่อเดือนเท่านั้น

The best healthy treats for dogs searches

แต่ก็ยังมีคีย์เวิร์ดอื่น ๆ อีกสองสามประโยคที่มีความหมายเหมือนกันในขณะที่มีปริมาณการค้นหาที่มากกว่า

health-dog-treats-keyword-variations

ซึ่งหากคุณนำคำเหล่านี้ไปค้นหาบน Google จะเห็นได้ว่าผลลัพธ์จะอยู่ในหน้าเดียวกัน และจัดอยู่ในอันดับต้น ๆ เนื่องจากว่า Google เข้าใจดีว่าเเม้ผู้คนจะใช้วลีในการค้นหาแตกต่างกันไป เเต่ก็ต้องการคำตอบในเรื่องเดียวกัน ดังนั้นจึงมีการจัดลำดับหน้าชุดเดียวกันสำหรับรูปแบบของคีย์เวิร์ดเหล่านี้ทั้งหมด

โดยหมายความว่าหากเพจของคุณเริ่มมีการจัดอันดับสำหรับคีย์เวิร์ดค้นหายอดนิยม เช่น “ขนมสุนัขเพื่อสุขภาพ” (ปริมาณการค้นหามากถึง 6.8 พันครั้ง) เพจจะจัดอันดับโดยอัตโนมัติสำหรับรูปแบบของ Long-tail keywords ของข้อความค้นหาทั้งหมด คุณจึงไม่ต้องสร้างหน้าแต่ละหน้าสำหรับรูปแบบของคีย์เวิร์ดแต่ละแบบ เเต่จะต้องกำหนดเป้าหมายทั้งหมดเอาไว้ในหน้าเดียว

แต่คุณจะรู้ได้อย่างไรว่า Long-tail Keywords ที่คุณกำลังดูเอาไว้นั้น เหมาะสำหรับหัวข้อเนื้อหาของคุณหรือไม่ สามารถใช้เครื่องมือของ Ahrefs ได้ โดยเครื่องมือนี้จะมีฟังก์ชัน “Parent Topic” เพียงแค่คุณป้อนคีย์เวิร์ดลงไป จากนั้นเครื่องมือจะตรวจสอบหน้าเว็บที่มีการจัดอันดับสูงสุดสำหรับคีย์เวิร์ดนั้น ๆ และดูว่ามีคำค้นหาไหนที่กำลังเป็นที่นิยมมากกว่าในหน้านี้หรือไม่

Overview-best-healthy-treats-for-dogs

ตัวอย่างเช่นภาพด้านบนนี้ คีย์เวิร์ด Long-tail ในรูปแบบนี้ได้รับความนิยมมากว่า “ขนมสำหรับสุนัขที่ดีต่อสุขภาพ” (การค้นหาอยู่ที่ 2.5 พันครั้ง) และการจัดอันดับคำค้นหาจะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ

Topical long-tail keywords

คีย์เวิร์ดในรูปแบบนี้ ขอยกตัวอย่าง long-tail คีย์เวิร์ด เช่น “แมลงวันกัดหูสุนัข”

Overview-fly-bites-on-dog-ears

ซึ่งใช้วิธีการตรวจสอบความนิยมเหมือนเดิม ไปที่ “Parent Topic” ปรากฏว่าผลลัพธ์ของตำที่ปรากฏขึ้นเป็นประโยคเดียวกันหรือมีความคล้ายคลึงกับคำที่คุณใช้มาก ๆ แสดงว่าคีย์เวิร์ดนี้ได้รับความนิยมมากที่สุด เเละคุณสามารถกำหนดเป้าหมายของ long-tail คีย์เวิร์ดได้อย่างปลอดภัยด้วยหน้าเฉพาะ

และเมื่อคุณได้จัดอันดับคีย์เวิร์ด Long-tail ตามหัวข้อนี้แล้ว คุณจะสามารถจัดอันดับรูปแบบของคีย์เวิร์ดค้นหาได้โดยไปที่ “Supporting” ค้นหาคีย์เวิร์ดที่ได้รับความนิยมน้อยกว่าทั้งหมดโดยอัตโนมัติ

Fly-bites-supporting-keywords

มาดูคีย์เวิร์ดอีกประโยคหนึ่ง “ตัวช่วยการนอนหลับตามธรรมชาติสำหรับสุนัข” 

Overview-natural-sleep-aid-for-dogs

โดย Parent Topic จะแนะนำคีย์เวิร์ดที่น่าสนใจว่า “เครื่องช่วยการนอนหลับสำหรับสุนัข” (การค้นหา 1.6 พันครั้ง) แต่อย่างไรก็ตามคีย์เวิร์ดนี้ก็ไม่ได้เเตกต่างจากคำเดิมเสียสักเท่าไหร่ แสดงว่าผู้ค้นหามีจุดประสงค์ต้องการทราบว่าตัวช่วยการนอนหลับของสุนัขที่มาจากธรรมชาติ แต่ส่วนใหญ่จะเห็นว่าไม่ค่อยมีใครพูดถึง “ตัวช่วยการนอนหลับตามธรรมชาติ” แต่จะพูดถึง “เครื่องช่วยการนอนหลับ” มากกว่า

SERP-natural-sleep-aid-for-dogs

แต่อย่างไรก็ตามจากข้อมูลดังกล่าวข้างต้น คีย์เวิร์ด “ตัวช่วยการนอนหลับตามธรรมชาติสำหรับสุนัข” จะดีกว่าและมีโอกาสที่สูงในการจัดอันดับที่ 1 เนื่องจากเป็นคำค้นหาเเบบกว้าง ๆ เเละครอบคลุมในหัวข้อนี้ ดังนั้นคุณอย่าเชื่อผลลัพธ์จากการวิเคราะห์ของ Parent Topic ทั้งหมด ต้องใช้วิจารณาเเละการพิจารณาของคุณร่วมด้วย

สรุป

เเละทั้งหมดที่กล่าวมานี้คือสิ่งที่เกี่ยวข้องกับ Long-tail keywords ซึ่งจะช่วยให้การทำ SEO ของเว็บไซต์มีประสิทธิภาพมากขึ้น เเละเพิ่มอัตราการเข้าชมเว็บไ้ด้อย่างยอดเยี่ยม ดังนั้นเราจึงหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งกลยุทธ์ SEO ได้ เเละเว็บไซต์ของคุณมีปริมาณการค้นหาที่เพิ่มพุ่งสูงขึ้นเเบบไม่น่าเชื่อ

สวัสดีค่ะทุกคน ชื่อหมูนะคะ เราเป็นอีกคนหนึ่งที่ชื่นชอบงานเขียนมาก ๆ ค่ะ เพราะงานเขียนเปรียบเสมือนกับการสร้างโลกในจินตนาการของเราขึ้นมา โลกใบนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข ความสนุกสนาน เเละความรู้มากมายที่เราสามารถผจญภัยไปได้เเบบไม่มีลิมิต มาท่องโลกของตัวหนังสือไปพร้อมกันนะคะ