Meta Keywords คืออะไร จำเป็นต้องใส่หรือไม่ ในการทำบทความ SEO

Meta Keywords คือ Meta Tags ที่ใช้เพื่อบอกเครื่องมือค้นหาเว็บไซต์ หรือ Search Engine ให้รู้จักหน้าเว็บของเรามากขึ้นว่ากำลังเขียนคอนเทนต์เกี่ยวกับอะไร ซึ่งจะปรากฏอยู่ใน HTML Source Code ของเว็บไซต์ โดยผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมจะมองไม่เห็นโค้ดเหล่านี้

และนี่คือตัวอย่าง : <meta name=”keywords” content=”seo, search engine optimization”/>

ถึงแม้ว่าการใส่คีย์เวิร์ดลงไปเป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย แต่จะมีปัจจัยอะไรบ้างที่ควรคำนึงถึง มาดูไปพร้อมกันเลย

• Meta Keywords ยังสำคัญอยู่ไหม ?
• แนวทางการนำ Meta Keywords ไปปรับใช้ในรูปแบบอื่น ๆ 
• หากต้องการเอา Meta Keywords ออกต้องทำอย่างไร ?

Meta Keywords ยังสำคัญอยู่ไหม ?

รู้หรือไม่ว่า Google ไม่ได้ใช้ Meta Tags ในการจัดอันดับเว็บไซต์มานานเกือบ 10 ปีแล้ว โดยรู้จากการที่ Matt Cutts อดีตหัวหน้าทีมเว็บสแปมของ Google เผยแพร่วิดีโอตัวหนึ่งออกมาในปี 2009 และกล่าวอย่างชัดเจนว่า “เราจะไม่ใช้ Keywords Meta Tag ในการจัดอันดับค้นหาแล้ว” จนผ่านมาถึงปี 2020 อ้างอิงจากโพลล์ใน Twitter ของ Bill Slawski ก็ยังแสดงให้เห็นว่าผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO ส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้งานแล้วเช่นกัน

Do you still use meta keywords tags on pages you optimize?

— Bill Slawski ⚓ 🇺🇦 (@bill_slawski) May 29, 2020

ถึงอย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือ ต้องจำไว้ว่าการทำ SEO มีอะไรที่มากกว่านั้น ดังนั้นจึงมีอยู่อีกประมาณ 2 – 3 ปัจจัยที่ Meta Keywords ยังคงจำเป็นอยู่โดยมีปัจจัยดังนี้

1. ใน Yandex ยังใช้งานได้

Yandex หรือ Search Engine ที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซีย ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดเทียบเท่ากับ Google ของทางฝั่งนั้น ได้ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการว่า ยังสามารถใช้งานเพื่อระบุความเกี่ยวข้องบนหน้าเว็บไซต์กับคำค้นหาได้อยู่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะส่งผลต่อการจัดอันดับเว็บไซต์ใน Yandex โดยตรง

"Officially" they say they still do, but I think this is a very low weight factor, even for яндекс. This is the consensus among most of us who have done SEO in Russian 🙂https://t.co/RrNAmzR0Vb

— orun bhuiyan (@orvn) May 29, 2020

นอกจากนี้หากมองไปที่ Search Engine ตัวอื่น ๆ ดูเหมือนว่าจะไม่มีเจ้าไหนเลยที่ยังใช้งาน Meta Keywords เป็นหลักอยู่ ยกตัวอย่างเช่น :

Bing

ในปี 2014 Bing มีการระบุไว้ในบล็อกโพสต์ว่า Meta Keywords ใช้ไม่ได้แล้วในแง่ของ SEO ซึ่งข้อความนี้ได้รับการยืนยันอีกครั้งในปี 2020 โดยทวีตหัวหน้าฝ่ายของ Bing

The meta keyword tag is dead in terms of SEO value for @BingWMC. We exclude it and ignore it. @CoperniX @facan

— Christi Olson (@ChristiJOlson) May 29, 2020

อย่างไรก็ตาม ในปี 2011 Bing ได้มีการบอกเป็นนัยว่ายังสามารถใช้ Meta Keywords เพื่อเป็นสัญญาณในการระบุสแปมสำหรับแยกแยะหน้าเว็บไร้คุณภาพได้อยู่ ซึ่งก็ยังไม่มีอะไรยืนยันว่ายังเป็นเช่นนั้นอยู่หรือไม่ แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ปัจจัยที่ส่งผลต่อการจัดอันดับเว็บไซต์อย่างแน่นอน

Baidu

ในปี 2012 ทีมวิศวกรของ Baidu ได้ออกมาประกาศในชุมชนเว็บไซต์ของตนเองว่า Meta Keywords คือสิ่งที่จมอยู่ในกองขยะมาเป็นเวลานาน และจะไม่มีการให้ความสำคัญกับมันอีก” แต่ถึงอย่างนั้นก็มีการอัปเดตใหม่บนหน้าเพจในเดือนเมษายน ปี 2020 ที่ผ่านมาว่า “Title, Description และ Keywords ยังคงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการประเมินหน้าเว็บไซต์ใน Baidu อยู่” ซึ่งการเชื่อถือข้อมูลข่าวสารใหม่ ๆ ก็นับเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงมีการคาดเดาว่าในอนาคต Meta Keywords อาจส่งผลต่อการจัดอันดับใน Baidu ได้

Naver

หากอ้างอิงตาม Wikipedia Naver คือเครื่องมือค้นหาที่ครองตลาดในเกาหลีใต้ไปถึง 74.7 % โดยแม้ว่าเราจะไม่พบคำชี้แจ้งอะไรที่ชัดเจนเกี่ยวกับการใช้ Meta Keywords แต่ก็ไม่มีการพูดถึงเลยในเอกสารข้อกำหนดเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า อาจไม่ได้ถูกใช้ หรือเป็นปัจจัยที่ส่งผลน้อยมากต่อการจัดอันดับใน Naver

2. ใช้งานกับระบบค้นหาภายใน

ถึงแม้ว่าระบบจัดการเนื้อหาของเว็บไซต์ หรือ CMS ที่ได้รับความนิยมส่วนใหญ่จะเลิกใช้งาน Meta Keywords ไปแล้ว แต่ระบบค้นหาภายในบางอันยังคงใช้ได้อยู่ ได้แก่ SOLR, Algolia รวมถึงระบบที่สร้างบน Elasticsearch ด้วย

แนวทางการนำ Meta Keywords ไปปรับใช้ในรูปแบบอื่น ๆ

Meta Tags นั้นประกอบไปด้วยหลาย Tag มาก ๆ โดยถึงแม้ในปัจจุบัน Meta Keywords ที่เป็นหนึ่งในนั้นจะไม่ได้รับความนิยม หรือเลิกใช้งานไปแล้ว แต่ก็ยังมีแนวทางบางอย่างที่ยังนำไปปรับใช้ได้อยู่

1. สร้างระบบ Tagging ภายใน

ระบบจัดการเนื้อหาของเว็บไซต์ (CMS) และระบบเว็บไซต์พร้อมใช้ (Website Builder) หลายตัว ช่วยให้การเพิ่ม Meta Keywords บนหน้าเว็บทำได้ง่ายยิ่งขึ้น จากการใช้ปลั๊กอิน WordPress SEO ฟรีต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยให้สามารถนำ Tag มาทำระบบค้นหาคีย์เวิร์ดภายในเว็บไซต์ได้ เพียงแค่ตั้งค่าคีย์หลักในแต่ละหน้าเท่านั้น

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคีย์เวิร์ดหลักของเราคือ “SEO tips” ก็จะสามารถตั้งค่าได้แบบนี้ : 

<meta name=”keywords” content=”seo tips”/>

หากทำครบในทุก ๆ หน้า ก็จะสามารถเช็กคีย์เวิร์ดที่อยู่ในแต่ละหน้าได้ง่ายขึ้น เพียงตรวจสอบผ่านเครื่องมือ Site Audit บน Ahrefs แล้วคลิกไปที่ Page Explorer ก็สามารถค้นหาหน้าเว็บที่มี Keyword นี้ใน Meta Tags ได้เลย

ซึ่งมีข้อดีคือ : 

• ลดการแบ่งแยกคีย์หลัก ช่วยให้เว็บไซต์ไม่กำหนดคีย์เวิร์ดซ้ำกันในหลาย ๆ หน้า และลดปัญหาการเกิดหน้าเว็บที่ไม่ต้องการแต่มีอันดับสูงกว่าหน้าที่ต้องการได้
• ลดการทำงานซ้ำซ้อน หากทำงานอยู่ในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการทำ SEO ก็อาจมีทีมงานจำนวนมากที่กำลังทำบทความในขอบเขตเรื่องเดียวกัน ซึ่งการมีระบบ Tagging จะช่วยให้แต่ละทีมไม่กำหนดคีย์เวิร์ดซ้ำกัน
• เพิ่มโอกาสในการปรับปรุงหน้าเว็บ หากตรวจพบว่าคีย์เวิร์ดไหนอยู่ในอันดับไม่ดี ก็สามารถ Tracking ออกมา และปรับปรุงเนื้อหาหน้าเว็บของคำนั้นให้ดีขึ้นได้

2. ค้นหาไอเดียคีย์เวิร์ดจากคู่แข่ง

แบบสำรวจบน Twitter ล่าสุดของ Bill Slawski แสดงให้เห็นว่าผู้คนกว่า 33 % ยังคงใช้ Keywords Meta Tag อยู่ ซึ่งมีประโยชน์มากเวลาที่เรากำลังค้นหาไอเดียคีย์เวิร์ด แต่ก็นับว่าเป็นดาบสองคม เพราะอาจมีคู่แข่งเข้ามาดู Source Code ของเราได้เช่นเดียวกัน แล้วจะรู้ทันทีเลยว่าหน้าเว็บเรากำลังเล็งไปที่คีย์เวิร์ดตัวไหน และหยิบไปใช้ได้ทันที

สำหรับใครที่ไม่เห็นภาพว่าตัว Code เป็นแบบไหน นี่คือตัวอย่างคีย์เวิร์ดร้านของเล่นยอดนิยม ซึ่งจะประกอบไปด้วยคำหลักที่เกี่ยวข้องกับของเล่นมากมาย :

หลังจากนั้นเพียงนำไปวางใน Keywords Explorer ของ Ahrefs ก็จะได้ไอเดียคีย์เวิร์ดนับพัน หรือมากกว่านั้นขึ้นมาทันที พร้อมบอกระดับความยากง่าย จำนวนการคลิก และ ปริมาณการค้นหาในเดือนนั้น ๆ ด้วย

นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าฟิลเตอร์เพื่อลดขอบเขตการค้นหาลง เช่น อาจเลือกระดับความยากของคีย์เวิร์ด (KD) และหัวข้อย่อยที่ต้องการได้ ตามตัวอย่างดังภาพ

หากต้องการเอา Meta Keywords ออกต้องทำอย่างไร ?

อย่างที่บอกไปด้านบนว่าเราสามารถสอดแนมคู่แข่งได้ แต่พวกเขาก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นหากไม่มีเหตุจำเป็นในการใช้งาน ก็ควรที่จะลบ Meta Keywords ออกจากโค้ดในเว็บไซต์ไปเพื่อความปลอดภัย

แต่การจะทำแบบนั้นได้ ก่อนอื่นต้องรู้วิธีหา Source Code ให้เจอก่อน ซึ่งสามารถใช้งานได้ฟรีใน Ahrefs Webmaster Tools เพียงแค่ล็อกอิน และไปที่ Site Audit หลังจากนั้นใช้ฟิลเตอร์ที่อยู่ใน Page Explorer เหมือนตัวอย่างในภาพได้เลย

หลังจากนั้นจะสามารถเห็นลิสต์รายการเว็บไซต์ของเราที่มี Meta Keywords อยู่ แต่ถ้าหากไม่มีผลลัพธ์ขึ้นมา ก็แสดงว่าไม่มีหน้าเว็บที่มี Tag อยู่เลย

หลังจากที่เจอลิสต์รายการเว็บไซต์ที่ต้องการแล้วก็ให้เอา Tag ออกได้เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

โดยมีคำแนะนำอย่างหนึ่งคือ หากเป็นเว็บไซต์ขนาดใหญ่ก็อาจจะไม่ค่อยคุ้มที่ต้องมาไล่เอาออกทุกหน้า แต่ถ้าหากเป็น Meta Keywords เดียวกัน ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะถูกดึงมาจาก CMS หรือเทมเพลตเดียวกัน ซึ่งอาจจะลบออกได้ในการกดแก้ไขโค้ดเพียงครั้งเดียว

สรุป

สำหรับผู้คนกว่า 99.99 % Meta Keywords อาจไม่จำเป็นต่อการใช้งานอีกต่อไป และกลายเป็นเรื่องที่ทำให้เสียเวลาหากต้องใส่ลงไป แต่ในบางสถานการณ์ก็ยังสามารถนำมาปรับใช้ได้อยู่ เช่น ใช้ทำระบบ Tagging คำหลัก หรือเพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับการค้นหาภายในเว็บไซต์ เป็นต้น

ใครที่อยากหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำ SEO สามารถตามอ่านบทความอื่น ๆ ได้ที่ : https://thekalling.com/tkl-blog/

• Facebook
• Twitter
• Line