หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้ว่า Featured Snippets คืออะไร ซึ่งอธิบายได้ง่าย ๆ ว่า เป็นผลการค้นหาที่ปรากฏขึ้นบนหน้าผลการค้นหาของ Google โดยจะมีในส่วนการแสดงคำตอบที่ผู้ต้องการค้นหาสามารถอ่านได้ทันที ไม่จำเป็นต้องคลิกเข้าไปอ่านนั่นเอง และเชื่อไหมว่าผลการค้นหาเหล่านี้มักปรากฏอยู่ในอันดับบนสุด หรืออันดับ 0 ของหน้าค้นหา

แต่อย่างไรก็ตามข้อมูลที่ปรากฏจะเป็นข้อความสั้น ๆ ที่บอกถึงคำตอบโดยรวม ซึ่งส่วนนี้จะช่วยดึงดูดให้ผู้ค้นหาคลิกเข้ามาเยี่ยมชมและอ่านข้อมูลเพิ่มเติมในเว็บไซต์ได้มากขึ้น
สารบัญเนื้อหา
- ประเภทของ Featured Snippet มีอะไรบ้าง
- Featured Snippet ที่โดดเด่นมีผลต่อการค้นหา และการทำ SEO ของเว็บไซต์อย่างไรบ้าง
- วิธีค้นหาและเพิ่มประสิทธิภาพของ Featured Snippet ทำได้อย่างไร
- วิธีการรับ Featured Snippet เพิ่มเติม
- วิธีการติดตาม Featured Snippet
ถ้าพร้อมแล้วมาเรียนรู้สิ่งที่น่าสนใจนี้กันได้เลย
ประเภทของ Featured Snippets มีอะไรบ้าง
มีทั้งหมด ประเภท ที่ Google ใช้ในการแสดงผลการค้นหาในหน้าแรก ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นได้ดังนี้
- Paragraph
- Numbered list
- Bullet list
- Table
- Video
เมื่อรู้จักกับประเภทไปแล้ว มาดูตัวอย่างของ Featured Snippets แต่ฃละประเภทกันดีกว่า
Paragraph

Featured Snippets ที่มาในรูปแบบ Paragraph หรือข้อความ เป็นประเภทที่สามารถพบเจอได้บ่อยที่สุด ซึ่งจะมีความยาวไม่เกิน 40-60 คำ เป็นพารากราฟสั้น ๆ ที่อธิบายเนื้อหาคร่าว ๆ ได้อย่างกระชับและตรงประเด็น อ่านแล้วเข้าใจได้ไม่ยาก

Numbered list

การแสดงผลลัพธ์ในรูปแบบนี้จะเป็นลิสต์ตัวเลข ซึ่งจะมีการเรียงลำดับตามหัวข้อ โดยใช้ตัวเลขขึ้นต้น Featured Snippets ประเภทนี้เหมาะสำหรับกับเนื้อหาที่มีการแสดงขั้นตอนเป็นลำดับ หรือเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับการจัดอันดับ
Bullet list

สำหรับ Featured Snippets ประเภทนี้จะใช้สำหรับเนื้อหาที่มีหัวข้อย่อย ๆ เช่น สูตรอาหาร หรือการจัดอันดับต่าง ๆ เป็นต้น
Table

การแสดงผลการค้นหาแบบตาราง จะช่วยให้ผู้ค้นหาเข้าใจข้อมูลได้ง่าย ซึ่งเหมาะสำหรับเนื้อหาอย่างเช่น ตารางหน่วยวัด ตารางบัญชี ตารางวันเดือนปี เป็นต้น
Video

สำหรับผลการค้นหา Featured Snippets ประเภทนี้จะใช้ในการแสดงผลการค้นหาที่มาจาก Youtube นั่นเอง
Knowledge panel

Knowledge card

Entity carousel

ทั้งหมดนี้เป็นคุณสมบัติของ SERP ซึ่งทั้ง 3 ประเภทนี้จะไม่ได้ดึงคำตอบมากจากผลการค้นหาอันดับสูงสุดเท่านั้น แต่ยังมีผลการค้นหาอื่น ๆ ขึ้นแสดงอยู่
Featured Snippets ที่โดดเด่นมีผลต่อการค้นหา และการทำ SEO ของเว็บไซต์อย่างไรบ้าง
ทาง Google ได้มีการเปิดตัวการใช้งาน Featured Snippet ตั้งแต่ในปี 2014 ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการเปลี่ยนแปลง SERP ที่โดดเด่นมากสุดที่เคยมีมา โดยยังส่งผลต่อการใช้งานของผู้ค้นหา และ SEO อีกด้วย
ทางลัดไปยังตำแหน่งการค้นหาอันดับสูงสุด
ถ้าหากเนื้อหาของคุณมีการจัดอันดับสูงสุดเท่าใด ก็จะมีแนวโน้มมากขึ้นที่จะได้รับ Featured Snippet มากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังส่งผลให้ผู้คนสามารถค้นเจอเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายกว่าเดิม
ลดอัตราการคลิกเข้าชม
บางครั้ง Featured Snippets อาจจะส่งผลให้อัตราการคิดลดต่ำลงได้ แต่อย่างไรก็ตามหากในทางกลับกันก็ช่วยเพิ่มอัตราการคลิกได้เช่นเดียวกัน ขึ้นอยู่กับว่า Google สามารถให้คำตอบที่น่าพอใจจาก Featured Snippet ที่แสดงในหน้าผลการค้นหาต่อผู้ใช้งานมากน้อยเพียงใดนั่นเอง ถ้าคำตอบยังไม่ชัดเจน ผู้ค้นหาก็จะคลิกเข้าสู่เว็บไซต์เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม

ซึ่งคนส่วนใหญ่เมื่อได้คำตอบที่ต้องการจาก Featured Snippets แล้ว จะมีโอกาสเฉลี่ยเพียง 19% เท่านั้นที่จะทำให้เกิดการคลิก

ต้วอย่า’เช่น เว็บไซต์ตลาดหุ้นด้านล่างนี้

จะเห็นได้ว่ามีผลการค้นหาที่มีคำตอบพื้นฐานสำหรับคำถาม ซึ่งเป็นคำตอบเบื้องต้นที่ไม่ได้ลงรายละเอียดอะไรมากนัก ซึ่งผู้ค้นหาส่วนใหญ่จึงอาจต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม และคลิกเข้าสู่เว็บไซต์

ซึ่งคีย์เวิร์ดก็ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อการคลิก ดังนั้นการกำหนดเป้าหมายคีย์เวิร์ดจึงมีผลต่อการค้นหา (CPS) และแน่นอนว่าเราสามารถค้นหาคีย์เวิร์ดที่มีปริมาณการค้นหาสูง และเหมาะสมได้ในเครื่องมือ Ahrefs Keywords Explorer.

Featured Snippet เป็นเครื่องมือเพิ่มโอกาสในการสร้างแบรนด์ที่มีประสิทธิภาพสูง
สำหรับ Featured Snippet เป็นสิ่งแรกที่ผู้ค้นหาจะเห็นในผลการค้นหา หากไม่มีโฆษณาบนการค้นหา โฆษณาเหล่านี้จะโดดเด่นยิ่งขึ้นบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ อย่างเช่น โทรศัพท์มือถือ หรือไอแพด เป็นต้น

ซึ่งส่วนนี้จะช่วยให้แบรนด์ของคุณปรากฏบน SERP สำหรับหัวข้อที่เกี่ยวข้องมากที่สุด โดยจะเพิ่มโอกาสให้ผู้คนค้นเจอเว็บไซต์ของคุณได้ไม่ยากเลย
คุณสามารถเลือกไม่ใช้ Featured Snippets ได้ ถ้าหากคุณไม่ต้องการ
มีการทดลองของเว็บไวต์ที่ยกเลิกการใช้ Featured Snippets เชื่อไหมว่าเว็บไซต์มีการเข้าชมลดลงมากถึง 12% ซึ่งไม่ได้เป็นเรื่องที่ดีเลย แต่อย่างไรหากคุณไม่ต้องการสิ่งนี้ มีวิธีง่าย ๆ ในการลบหน้าเว็บไม่ให้ปรากฏใน Featured snippet คือ การรวม Meta tag robots ตัวอย่างข้อมูลสูงสุดไว้อีกด้วย ซึ่งแท็กนี้จะระบุจำนวนอักขระสูงสุดที่ Google สามารถแสดงได้ในตัวอย่างข้อความ
และเนื่องจาก Featured Snippet ยาวกว่าคำอธิบายปกติ คุณสามารถแก้ไขได้โดยการกำหนดจำนวนอัขระสูงสุดให้เท่ากับความยาวสูงสุดของคำอธิบายตามปกติได้ โดยจะมีความยาวประมาณ 160 ตัวอักษร คุณเพียงแค่ต้องวางข้อมูลโค้ดนี้ลงในส่วน <head> ของหน้าเว็บที่คุณต้องการลบออกจากข้อมูลโค้ดแนะนำ:
<meta name=”robots” content=”max-snippet:170″>
เพียงเท่านี้ก็สามารถกำหนดความยาวของคำอธิบายใน Featured Snippets ได้
คำแนะนำเพิ่มเติม
หากคุณต้องการยกเลิกการใช้งาน Featured Snippet จะต้องตรวจสอบก่อนว่าเพจของคุณมีอันดับอยู่ที่เท่าไหร่

หากเราเติม “&num=9” ต่อท้าย URL โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโหมดไม่ระบุตัวตน เราจะเห็นได้ว่าเราจะอยู่ในอันดับที่เท่าไหร่ หากไม่ได้อยู่ในตัวอย่างข้อมูล Featured Snippet:

จะเห็นได้ว่าถ้าหากไม่ใช้ จะอยู่ในตำแหน่งที่สองหรือสาม และอาจจะมีเว็บอื่นมาแทนที่ได้ ดังนั้นทางที่ดีคือแนะนำให้ใช้ Featured Snippet
วิธีค้นหาและเพิ่มประสิทธิภาพของ Featured Snippet ทำได้อย่างไร
Google Search Console จะไม่แสดงข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวกับ Featured snippet ซึ่งคุณจะต้องใช้เครื่องมืออย่าง Ahrefs Site Explorer แทน ซึ่งมีวิธีการใช้งานดังนี้
- วางลิงก์ของคุณลงในเครื่องมือ
- ไปที่รายงาน Organic keywords
- ตรวจสอบคีย์เวิร์ดในเว็บที่มีการจัดอันดับ
- กรองคีย์เวิร์ดที่ Google แสดงหน้าเว็บของคุณใน Featured Snippet

ซึ่งตัวอย่างด้านบนนี้จะเห็นได้ว่าโดเมนของ Ahrefs อยู่ในอันดับที่ 1,042 ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเวอร์ชันก่อนหน้าของบทความนี้ จะแนะนำให้กรอคีย์เวิร์ดที่มีปริมาณการค้นหาสูงสุด และตรวจสอบ Featured Snippet ที่สำคัญมากสุดด้วยตนเอง นั่นเป็นเพราะว่าบางครั้ง Google ดึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม และคุณต้องการให้ตัวอย่างข้อมูลสำคัญเหล่านี้สมบูรณ์แบบ แต่อย่างไรก็ตามอยากแนะนำว่าถ้าไม่จำเป็ฯก็ไม่ควรแก้ไข Featured Snippet
วิธีการรับ Featured Snippet เพิ่มเติม
เชื่อไหมว่ามีวิธีการง่าย ๆ ในการรับ Featured Snippet ให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มการเข้าชมแบบออร์แกนิคให้สูงขึ้นนั่นเอง ซึ่งจะมีวิธีการอย่างไรบ้างไปดูกันเลย
ใช้เนื้อหาที่มีอยู่แล้ว และทำการจัดอันดับ
มาดูหน้าเว็บที่มีอันดับอยู่ใน 10 อันดับแรก สำหรับคีย์เวิร์ดใดคีย์เวิร์ดหนึ่ง และหากต้องการโอกาสในการจัดอันดับที่ดีมากขึ้นให้ทำตามขั้นตอนนี้
- ไปที่ Site Explorer
- กรองคีย์เวิร์ดที่เรียกใช้ Featured Snippet ที่จะทำให้เว็บไซต์ของคุณอยู่ในอันดับ 2-10 ได้

จากนั้นแนะนำให้ลดลิสต์คีย์เวิร์ดให้เหลือเพียง 21 คำ โดยจัดลำดับความสำคัญของคีย์เวิร์ดที่มีปริมาณการค้นหาสูงกว่าซึ่งเราอยู่ในอันดับที่ 2-5

ต่อมาให้จัดลำดับความสำคัญเพิ่มเติมโดยการตรวจสอบคีย์เวิร์ดที่มีมูลค่าทางธุรกิจที่มั่นคงได้ด้วยตนเอง ดังนั้นมาดูคีย์เวิร์ดเหล่านี้กันเลย

ตัวอย่างเช่น คำค้นหา “most searched thing on google” เป็นคำค้นหาแรกที่มีความสำคัญน้อยกว่า “seo content” ที่มีอันดับต่ำกว่า

แนะนำว่าจะต้องตรวจสอบเพจของเรามีคุณสมบัติสำหรับ Featured Snippet หรือไม่ ถ้ายังไม่ดีพอต้องปรับให้เหมาะสม โดยการใช้ – search operator

ในกรณีนี้ไม่มีหน้าอื่นใน “queue” ใน Featured Snippet ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ว่าขณะนี้ผลการแสดงคำตอบสั้น ๆ นั้นยังไม่ดีพอในสายตาของ Google

หลังจากยกเว้นโดเมน Coursera แล้ว เราจะเห็นสิ่งที่ Google พิจารณาว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในอันดับสอง:

และคุณสามารถดูโดเมนที่สามในบรรทัดต่อไปเรื่อยๆ ได้ แต่ให้เพิ่มประสิทธิภาพสำหรับตัวอย่าง Featured Snippet ในหัวข้อ “seo content”

ตรวจสอบดูว่าพารากราฟนี้มีข้อมูลที่ครอบคลุมเนื้อหาของคุณดีพอแล้วหรือไม่

จากนั้นให้ใช้เครื่องมือ Ahrefs Keywords Explorer และไปที่ Position history

ให้กรองเฉพาะ URL ที่มี Featured Snippet ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา จะเห็นว่าส่วนที่เหลือมีการกำหนดเป้าหมายใน “SEO content” ตามลำดับดั้งเดิม และ Backlinko อ้างสิทธิ์ในตำแหน่งแรกมาเป็นเวลานาน แต่เราต้องตรวจสอบว่า Google ได้แสดงตัวอย่างข้อมูลแนะนำในตอนนั้นหรือไม่ ซึ่งสามารถทำได้โดยเลื่อนลงไปยังภาพรวม SERP เลือกวันที่ที่คุณต้องการตรวจสอบ SERP เพื่อเปรียบเทียบ ในกรณีนี้ ฉันต้องการ SERP ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน 2021:

คุณจะพบ Featured Snippet อยู่ที่นั่น และสุดท้ายคือการตรวจสอบส่วนที่ติดอันดับโดยเปิด URL บน Archive.org หลังจากคลิกที่เครื่องหมายรูปหมวก:

และเลือกภาพหน้าจอของหน้านั้นในช่วงเวลาที่มีการจัดอันดับ Featured snippet:

สิ่งสุดท้ายที่จะต้องตระหนักคือ Featured Snippet ของคุณจะต้องอยู่ในรูปแบบที่ Google สามารถแยกวิเคราะห์ ทำความเข้าใจ และตีความได้อย่างง่ายดาย ซึ่งเมื่อ Google เข้าใจได้อย่างแท้จริง ก็จะแสดงข้อมูลส่วนนี้ให้กับผู้ค้นหาได้ง่ายมากขึ้น
สร้างเนื้อหาใหม่ ๆ แต่ต้องคำนึงถึง Featured snippet
นอกจากการปรับปรุงเนื้อหาคอนเทนต์ให้หมดสดและตรงกับความต้องการของผู้ค้นหาเสมอ ยังมีสิ่งสำคัญที่จะต้องคำนึงถึง คือ เรื่องของ Featured snippet เนื่องจากส่วนนี้เป็นส่วนแรก ๆ ที่ผู้คนจะสามารถอ่านข้อมูลเนื้อหาของคุณได้ในหน้าผลการค้นหาของ Google
ไม่เพียงเท่านั้นหัวข้อเนื้อหาจะต้องเลือกตามการวิจัยตีย์เวิร์ดซึ่งสามารถค้นหาได้ในเครื่องมือ Ahrefs’ Keyword Explorer และเลื่อนไปที่ในส่วนของภาพรวม SERP


จากภาพตัวอย่างด้านบนนี้ เป็นกรณีของ Featured snippet ที่ไม่ดี เนื่องจากไม่สามารถตอบคำถามของผู้ค้นหาได้ดี ดังนั้นจะตัองมีการปรับเปลี่ยนคำอธิบายในส่วนนี้ให้ดีที่สุด โดยให้เลือกใช้คีย์เวิร์ดที่เหมาะสมและเกี่ยวข้องเขียนเข้าไปด้วย นอกจากนั้นคีย์เวิร์ดที่เลือกใช้ควรเป็นคำที่ได้รับการจัดอันดับสูง ๆ

เลือกดูคีย์เวิร์ดที่อยู่ในอันดับระหว่าง 1-20 เพื่อให้ได้คำที่ดีที่สุด และเหมาะสมมากที่สุด

จะเห็นได้ว่าคีย์เวิร์ดบางคำค่อนข้างจะคล้ายกันมาก เนื่องจากใช้ในจุดประสงค์เดียวกีนสำหรับการค้นหาและมี Featured snippet ที่เหมือนกัน ให้เลิอกคำที่สามารถนำมาเขียน Featured snippet ที่แตกต่างจากเดิม แต่ยังคงครอบลุมเนื้อหาภายในเว็บไซต์ได้เป็นอย่างดี

จากนั้นลองเอาคีย์เวิร์ดที่คุณสนใจไปหาใน Google และดูว่ามีการแสดงผลลัพธ์อย่างไรบ้าง

ดังนั้นการเขียน Featured snippet ที่ดี ควรจะเขียนโดยรวมให้ตรงประเด็นเกี่ยวกับทุก ๆ ด้านของเนื้อหา แต่อย่าลืมที่จะต้องเขียนให้กระชับไม่ยืดยาวและอย่าลืมที่จะใส่คีย์เวิร์ดสำคัญลงไปด้วย
ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับการเขียนอธิบายเนื้อหาโดยรวมสั้น ๆ เพื่อให้ได้รับ Featured snippet ที่มีประสิทธิภาพสูง
- จัดรูปแบบ และโครงสร้างให้ถูกต้องตามหลักการ SEO ซึ่งจะต้องมีการใช้ H1-H6 ในการกำหนดหัวข้อ หัวข้อย่อยต่าง ๆ ในเนื้อหา
- หลีกเลี่ยงประโยคที่เข้าใจได้ยาก ซับซ้อนมากเกินไป
- ใช้ภาษาการเขียนที่เป็นธรรมชาติ เนื่องจาก Google มีการแสดง Featured snippet ให้กับผู้ค้นหาที่ใช้เสียงในการค้นหา
- แนะนำให้ใช้การเขียนในรูปแบบ Content Pyramid ดู เพื่อให้เห็นภาพและเข้าใจการทำงานง่ายขึ้น
เคล็ดลับเพิ่มเติม
หากภายในเนื้อหามีส่วนที่ต้องเขียนเป็นลำดับขั้นตอน หรือมีคำถามที่พบบ่อย ๆ แนะนำให้ใช้ schema markup สำหรับเน้นส่วนที่มีโครงสร้างเหล่านี้ ซึ่งจะช่วยปรับปรุงผลการค้นหาให้ดีขึ้นได้
วิธีการติดตาม Featured Snippet
การได้รับ Featured snippet จะช่วยในเรื่องของการจัดอันดับคีย์เวิร์ดสำคัญได้อีกด้วย ซึ่งวิธีการติดตาม Featured snippet นั้นสามารถทำได้ตามขั้นตอนดังนี้
- เข้าไปที่ Ahrefs’ Rank Tracker
- เพิ่มคีย์เวิร์ดที่สำคัญมากที่สุดลงไป และเรียกใช้ตัวอย่าง Featured snippet
ซึ่งขั้นตอนเหล่านี้สามารถเข้าไปทำได้ที่รายงาน Organic keywords ของเครื่องมือและสร้างโปรเจ็กต์การติดตามอันดับ

ไปที่รายงานภาพรวมของ Rank Tracker’s Overview จากนั้นให้คลิกที่ “SERP features” และตรวจสอบที่แถวของ “Featured snippet”

จากข้อมูลจะเห็นได้ว่าคีย์เวิร์ดที่กำลังติดตามอยู่นั้น มีการ Featured snippet หายไป 8 รายการ และมีรายการใหม่ ๆ เพิ่มมา 12 รายการปรากฏบน SERP ในช่วงเวลา 30 วันที่ผ่านมา
นี่คือส่วนที่คุณจะต้องทำการสังเกต
- จำนวน Featured snippet ที่คุณมีอยู่ ให้บวกลบกับการเปลี่ยนแปลงจำนวนในช่วงเวลาที่เลือก
- จำนวน Featured snippet ทั้งหมดที่มีอยู่ สำหรับคีย์เวิร์ดหลักที่คุณกำลังติดตาม บวกลบการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาที่เลือก
- เปอร์เซ็นต์ของ Featured snippet ทั้งหมดของคุณจากคีย์เวิร์ดหลักที่ติดตาม
นอกจากการใช้ฟังก์ชัน “all tracked features” ในการติดตามแล้ว คุณสามารถใช้ “featured snippets” เพื่อดูความคืบหน้าได้อีกด้วย

หากต้องการเจาะลึกข้อมูลเฉพาะของระดับคีย์เวิร์ดให้เลือกตัวกรอง “Featured snippet”

และเลื่อนลงไปที่รายการคีย์เวิร์ดเพื่อดูข้อมูลการเปรียบเทียบเวลา เช่น ในช่วงเวลา 30 วัน เป็นต้น

จะเห็นว่าคีย์เวิร์ดอันดับต้น ๆ จะอยู่ใน Featured snippet ใหม่ ๆ ของเรา แต่อย่างไรก็ตามแนะนำให้ใช้ตัวกรองสองตัวนี้เพิ่มเติม
- Position – ปรับปรุงแล้ว ซึ่งอันดับของคุณจะสูงกว่าตอนเริ่มต้นในระยะเวลาที่คุณเลือก
- SERP features – จัดอันดับสำหรับ Featured snippet

เลื่อนลงไปด้านล่าง และดู Featured snippet ที่มีอันดับสูงสุดในเดือน หรือตามช่วงเวลาที่คุณเลือก

หากต้องการดู Featured snippet ที่หายไป ให้ใช้ตัวกรองนี้เลย
reverse filters -> decline in positions in the top 10

จากนั้นต้องพิจารณาตรวจสอบตำแหน่งที่ลดลง ซึ่งจัดเรียงตามปริมาณการเข้าชใ และต้องแก้ไขปริมาณการเข้าชมที่ลดลงอย่างมาก โดยปรับปรุง Featured snippet ให้ดีขึ้น
สรุป
การเพิ่มประสิทธิภาพของ Featured snippet คือ การเขียนคำตอบที่ผู้ค้นหาต้องการทราบในข้อความสั้น ๆ แต่ได้ใจความ เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจว่าเนื้อหาภายในเว็บไซต์ของคุณเกี่ยวข้องกับเรื่องอะไร ดังนั้นการได้รับ Featured snippet ในรูปแบบที่เหมาะสมที่สุด จะส่งผลดีต่อเว็บไซต์ และยังเป็นไปตามข้อปฏิบัติของ SEO เพื่อให้เว็บไซต์มีการจัดอันดับที่สูงขึ้น